แม้ว่า Bitcoin จะยังครองตำแหน่งสินทรัพย์คริปโตที่สถาบันให้ความสนใจมากที่สุด แต่ผลการวิจัยล่าสุดจาก Capital Markets กลับเผยข้อมูลที่น่าทึ่งว่า เพียงแค่เพิ่ม Solana (SOL) เข้าไปในพอร์ตการลงทุนเพียงเล็กน้อย ก็สามารถช่วยเพิ่มผลตอบแทนโดยรวมของพอร์ตได้เกือบ 2 เท่า
งานวิจัยนี้เป็นผลการวิจัยโดย Capital Markets ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจาก Bitwise ได้ทำการทดสอบการเพิ่ม Solana เข้าไปในพอร์ตมาตรฐานแบบ 60/40 (หุ้น 60% พันธบัตร 40%) พบว่า แค่ถือ SOL เพียง 1% ของพอร์ต ก็ช่วยเพิ่มผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีขึ้นเป็น 10.54% พร้อมกับเพิ่ม Sharpe Ratio (ตัวชี้วัดผลตอบแทนต่อความเสี่ยง) เป็น 0.696
แต่เมื่อเพิ่มสัดส่วน Solana ขึ้นเป็น 2.5% ผลตอบแทนพุ่งไปถึง 16.64% โดยมีอัตราส่วน Sharpe Ratio ขยับเป็น 1.093
และถ้ากล้าถือ SOL ที่ 5% ของพอร์ต ผลตอบแทนเฉลี่ยจะทะยานขึ้นไปถึง 26.22% โดยมี Sharpe Ratio อยู่ที่ 1.412

การจัดสรรพอร์ตการลงทุนใน SOL ที่มา: Capital Markets
ส่วนในกรณีที่จัดหนัก ถือ SOL ถึง 10% แม้ความเสี่ยงจะสูงขึ้น แต่ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี กลับพุ่งไปถึง 43.88% พร้อม Sharpe Ratio สูงถึง 1.687
ทีมวิจัยระบุว่า การจัดพอร์ตให้มี SOL อย่างพอดี สามารถช่วยเสริมประสิทธิภาพของพอร์ตการลงทุนระยะยาวได้จริง โดยเฉพาะในยุคที่สินทรัพย์ดิจิทัลเริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารความมั่งคั่งของนักลงทุนทั่วโลก
แต่ที่น่าสนใจคือ เมื่อทดลองแบ่งสัดส่วนลงทุนในคริปโตรวม 10% ออกเป็น Bitcoin, Ethereum และ Solana อย่างละเท่า ๆ กัน (3.33%) ผลตอบแทนกลับลดลงเหลือเพียง 19.87% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าครึ่งของการถือ Solana เพียงเหรียญเดียว
หากจัดพอร์ตแบบ Bitcoin 50%, Ethereum 30%, Solana 20% ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 16.18%,
ส่วนการถือ SOL เพียง 5% จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 11.33% และ หากถือ SOL ประมาณ 2.5% จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8.84%

ที่มา: Capital Market
อย่างไรก็ตาม รายงานย้ำว่า แม้ผลตอบแทนจาก SOL จะสูงขึ้นอย่างชัดเจน แต่ความเสี่ยงสูงสุดของพอร์ตยังคงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้
โดยทีมวิจัยสรุปว่า การลงทุนใน Solana เพียงเหรียญเดียว จะให้ผลตอบแทนสูงกว่าในระยะยาว แต่พอร์ตที่มีการกระจายลงทุนในคริปโตหลายตัว จะให้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอและนิ่งมากกว่า
สาเหตุที่ทำให้ Solana โดดเด่นจนได้รับความสนใจมากขึ้นในภาคสถาบัน มาจากพื้นฐานของเครือข่ายที่แข็งแรง ทั้งค่าธรรมเนียมที่ต่ำ, ความเร็วสูง, และสามารถประมวลผลธุรกรรมได้มากกว่า 96 ล้านครั้งต่อวัน ในไตรมาสแรกของปี 2025 ซึ่งส่วนใหญ่ขับเคลื่อนโดยกระแสเหรียญมีมและแอปพลิเคชันบนบล็อกเชน
นอกจากนี้ Solana ยังเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในหลายอุตสาหกรรม เช่น การชำระเงิน (Payments), เกม (Gaming) และ แอปผู้บริโภค (Consumer Apps) และปัจจุบันยังเป็นระบบ DeFi ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ด้วยมูลค่า Total Value Locked (TVL) กว่า 11,000 ล้านดอลลาร์

ระบบนิเวศ Solan DeFi ที่มา: DeFiLlama
และเมื่อรวมกับกระแสข่าวลือเรื่อง Spot Solana ETF ที่อาจเกิดขึ้นในสหรัฐฯ ทำให้ SOL ถูกพูดถึงมากขึ้นในฐานะ กุญแจสำคัญของทฤษฎีพอร์ตการลงทุนยุคใหม่
ที่มา : beincrypto
คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

