American Bitcoin Corp. (ABTC) บริษัทน้องใหม่ที่ได้ อีริค ทรัมป์ (Eric Trump) มาเป็นหัวเรือใหญ่ และมี Hut 8 บริษัทขุดเหมืองยักษ์ใหญ่คอยหนุนหลัง ได้ออกมาเปิดเผยแผนธุรกิจครั้งสำคัญ โดยตั้งเป้าที่จะพลิกโฉมบริษัทจากการเป็นแค่ “คนขุดเหมือง” ธรรมดา ไปสู่การเป็น “มหาอำนาจ Bitcoin” แบบครบวงจร ทั้งการขุด, การสะสมเหรียญเข้าคลัง และการเป็นผู้นำในระบบนิเวศ
ภารกิจ ‘ขุดให้คุ้ม-เก็บให้เยอะ-นำตลาดให้ได้’
ในเอกสารนำเสนอข้อมูลนักลงทุน ABTC ได้ประกาศภารกิจหลัก 3 ข้อคือ “ขุดอย่างมีประสิทธิภาพ, สร้างคลังสำรอง, และนำระบบนิเวศ” โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิต Bitcoin อันดับต้นๆ แต่จะใช้โมเดลธุรกิจแบบ “ตัวเบา” คือไม่ต้องลงทุนสร้างโรงงานเองทั้งหมด แต่จะอาศัยความเชี่ยวชาญและโครงสร้างพื้นฐานของ Hut 8 เป็นหลัก
ปัจจุบัน ABTC มีต้นทุนการขุดอยู่ที่ประมาณ 50,000 ดอลลาร์ต่อ BTC และสามารถเพิ่มกำลังการขุด (Hashrate) ขึ้นเป็นสองเท่าสู่ระดับ 24.2 EH/s ในเวลาเพียงสองเดือน โดยมีเป้าหมายต่อไปที่ 50 EH/s พร้อมกับพัฒนาประสิทธิภาพเครื่องขุดให้กินไฟน้อยลง
อีริค ทรัมป์ ‘เป้าหมายเราเรียบง่าย – ทำให้สหรัฐฯ แข็งแกร่งผ่าน Bitcoin’
อีริค ทรัมป์ ซึ่งนั่งเก้าอี้ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ กล่าวว่าวิสัยทัศน์ของบริษัทคือการผลักดันให้สหรัฐอเมริกากลายเป็นผู้นำโลกด้าน Bitcoin อย่างแท้จริง โดยทีมผู้บริหารของ ABTC ก็เป็นการรวมตัวของผู้บริหารมากประสบการณ์จากทั้ง Trump Organization, Hut 8 และ US Bitcoin Corp. ซึ่งบริษัทเน้นย้ำว่าเป็น “ทีมที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ”
ในส่วนของการสร้างคลังสำรอง ABTC วางแผนที่จะเก็บสะสม Bitcoin เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากการขุดเองและการเข้าซื้อโดยตรงจากตลาด โดยได้เตรียมเงินทุนก้อนใหญ่จากการเสนอขายหุ้นแบบ At-the-Market (ATM) มูลค่าถึง 2.1 พันล้านดอลลาร์บนตลาด Nasdaq ไว้แล้ว
“พูดง่ายๆ คือ เรารักอเมริกาและเรารักสินทรัพย์ที่เรียกว่า Bitcoin นั่นคือเหตุผลที่เราเปิดตัว ABTC” อีริค ทรัมป์ ประกาศผ่าน X
โอกาสมหาศาล-เชื่อมตลาดทุนสู่โลกดิจิทัล
ABTC เชื่อว่ายังมี “โอกาสอีกมหาศาล” ในตลาดนี้ เนื่องจากนักลงทุนสถาบันส่วนใหญ่ยังไม่ได้เข้ามาลงทุนใน Bitcoin อย่างจริงจัง บริษัทจึงตั้งเป้าที่จะเป็น “สะพานเชื่อม” ระหว่างตลาดทุนแบบดั้งเดิมเข้ากับโลกของสินทรัพย์ดิจิทัล และใช้ความได้เปรียบจากการเป็นบริษัทอเมริกัน เพื่อรวบรวม “ระบบนิเวศ Bitcoin ของสหรัฐฯ ที่ยังกระจัดกระจาย” ให้แข็งแกร่งขึ้น
ที่มา: ABTC