เมื่อวันที่ 24 ต.ค. เพจเฟซบุ๊ก “ตำรวจไซเบอร์ – บช.สอท.” ได้รายงานความคืบหน้าของปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มที่รับแลกเหรียญ Worldcoin จำนวนมากถึง 109 จุดทั่วประเทศ ภายหลังจากที่ประชาชนให้ความสนใจแห่กันไปสแกนม่านตาเพื่อแลกรับโทเคน World (WLD) ซึ่งสามารถนำไปซื้อขายแลกเปลี่ยนได้
สำหรับรายละเอียดของปฏิบัติการดังกล่าว ตำรวจไซเบอร์เปิดเผยว่า พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. พร้อมด้วยรองผู้บัญชาการและผู้บังคับการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ, พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์, พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ คล้ายคลึง, พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ, พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์, พล.ต.ต.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ, พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ และ พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น ได้สนธิกำลังกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิด “ปฏิบัติการฟ้าสางทลายธุรกิจเถื่อนรับแลกเหรียญ World Coin ผ่านการสแกนม่านตา” โดยได้ตรวจค้นเป้าหมายรวม 109 จุด

รายงานยังระบุถึง กรณีการจับกุมนายหน้าหนึ่งรายที่ยอมรับสารภาพว่า ได้รับซื้อเหรียญ WLD มาในราคา 28 บาทต่อ 1 โทเคน ซึ่งผู้ที่ไปลงทะเบียนสแกนม่านตาจะได้รับเหรียญประมาณ 30-40 WLD หรือคิดเป็นเงินประมาณ 800-1,100 บาท (อ้างอิงจากราคาซื้อขายปัจจุบัน)
แม้ว่าตัวเหรียญ Worldcoin (WLD) จะไม่ใช่สินทรัพย์ที่ผิดกฎหมายและมีการซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย และทาง Worldcoin เองเคยยืนยันว่าเทคโนโลยีการสแกนม่านตาไม่ได้ละเมิดกฎหมายไทย เนื่องจากระบบถูกออกแบบมาเพื่อยืนยันความเป็นมนุษย์ โดยไม่มีการรวบรวมหรือจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ ที่อยู่ หรือเลขบัตรประชาชน และไม่มีการซื้อ เก็บ หรือขายข้อมูลชีวมิติ
แต่การที่กลุ่มบุคคลได้ตั้งตัวเป็นโบรกเกอร์เถื่อนเพื่อรับแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลเป็นเงินสดไม่ว่าจะเป็นต่อหน้า หรือทางออนไลน์ นั้นถือว่ามีความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
ที่มา : ตำรวจไซเบอร์ , เดลินิวส์

