ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเผชิญความผันผวนอย่างรุนแรง หลังการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีน ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ในวันนี้ (30 ตุลาคม 2568) โดยราคา Bitcoin ได้ปรับตัวลดลงอย่างฉับพลันทันที หลังการประชุมสิ้นสุดลง
ข้อมูลจากกราฟ BTC/USD แสดงให้เห็นว่าราคา Bitcoin ได้ดิ่งลงอย่างรุนแรงกว่า 2.5% ภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงหลังการประชุม โดยราคาร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 107,925 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะค่อย ๆ ฟื้นตัวกลับขึ้นมาอยู่ในระดับ 110,242 ดอลลาร์สหรัฐ ณ เวลาที่รายงาน
สำหรับสาเหตุที่ Bitcoin กระชากตัวลงอย่างรุนแรงคาดว่าเป็นผลมาจากการตีความของตลาดในเชิงลบ เนื่องจากผู้นำทั้งสองไม่ได้มีการกล่าวอธิบายถึงผลการประชุมแต่อย่างใด ทำให้นักเทรดต่างคิดว่าข้อตกลงทางการค้าอาจไม่บรรลุผล
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากนั้นไม่นาน ทรัมป์ได้เปิดเผยรายละเอียดกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันขณะเดินทางออกจากเกาหลีใต้ว่าการพบปะครั้งนี้ “ยอดเยี่ยม” และสามารถบรรลุข้อตกลงสำคัญหลายประการ ซึ่งรายงานโดยเว็บไซต์ CNBC
- สหรัฐฯจะลดการเก็บภาษีการนำเข้าโดยรวมจาก 57% เหลือ 47% (-10%)
- สหรัฐฯจะลดการเก็บภาษีนำเข้าสารเฟนทานิล 10% มีผลบังคับใช้ทันที
- อาจมีการผ่อนปรนเรื่องการนำเข้าชิปจาก NVIDIA ไปยังประเทศจีน
- จีนและสหรัฐฯจะมีการร่วมมือกันในประเด็นของ “ยูเครน”
- จีนจะไม่มีการสกัดกั้นเรื่องการส่งออกแรร์เอิร์ธ ไปเป็นระยะเวลา 1 ปี แต่จะต้องต่อสัญญาใหม่ในทุกปี
การประชุมครั้งนี้เป็นการพบกันครั้งแรกในรอบหกปีของทั้งสองผู้นำ โดยมีบรรยากาศที่ค่อนข้างเป็นมิตร ทรัมป์เรียกสีว่า “เพื่อนเก่า” และกล่าวว่าตนมี “ความสัมพันธ์อันดียิ่ง” กับผู้นำจีน ในขณะที่สี จิ้นผิงย้ำว่าความใฝ่ฝันทางเศรษฐกิจของจีนไม่ได้ขัดแย้งกับวิสัยทัศน์ “กลับมาทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง” ของทรัมป์ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเปิดเผยว่าเขาจะเดินทางไปเยือนจีนในเดือนเมษายน 2026 และสีก็จะมาเยือนสหรัฐฯในภายหลัง แม้ยังไม่ได้ระบุเวลาที่แน่ชัด
แม้ว่า Bitcoin จะมีการฟื้นตัวขึ้นมาบ้างหลังจากที่ข้อมูลข้อตกลงถูกเปิดเผย แต่ตลาดคริปโตโดยรวมยังคงอยู่ในสภาวะเฝ้าระวังและยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม จะมีสัญญาออปชัน Bitcoin จำนวนมหาศาลหมดอายุลง ซึ่งอาจสร้างความผันผวนเพิ่มเติมให้กับตลาดอีกครั้ง ซึ่งนักลงทุนควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและจับตาดูทิศทางของตลาดในช่วงเวลาวิกฤตนี้

