เป็นที่ทราบกับดีว่าการขุดคริปโตนั้นถือเป็นกระดูกสันหลังของ Cryptocurrency ในสกุลหลัก ๆ เลยก็ว่าได้ เนื่องจากมันถือเป็นกลไกหนึ่งในเทคโนโลยี Blockchain ที่ทำให้เงินดิจิทัลสกุลนั้น ๆ สามารถทำการธุรกรรมได้อย่างถูกต้องและมีความน่าเชื่อถือ
อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมา เริ่มมีข้อกังขาว่าเครื่องขุดคริปโตนั้นไม่ก่อให้เกิดประโยชน์เท่าไรนักในแง่อื่น ๆ เนื่องจากมันมีต้นทุนที่สูง และกินพลังงาน พร้อมทั้งสร้างมลภาวะต่อโลกของเราเป็นอย่างมาก ทำให้เริ่มมีแนวทางต่าง ๆ ออกมาแก้ไขปัญหาดังกล่าว เช่น ระบบ Proof-of-stake ที่ไม่มีการขุดเกิดขึ้น และใช้การ Stake เหรียญเพื่อยืนยันธุรกรรมในเครือข่ายแทน
ล่าสุด ได้มีข่าวออกมาว่า บริษัท Canaan Creative จะเปิดขายโทรทัศน์ที่สามารถขุด Bitcoin ได้เร็ว ๆ นี้ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกในโลกที่มีนักขุดสามารถดูโทรทัศน์ไปได้ และขุด Bitcoin เพื่อหารายได้ในเวลาเดียวกัน
อนาคตของวงการคริปโต
เหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึง วิวัฒนาการและความเป็นไปได้ของวงการคริปโตที่สามารถพัฒนาไปต่อได้อีกไกล ลองจินตาการในอนาคตอีก 10 หรือ 20 ปีข้างหน้าที่การใช้ Cryptocurrency และ Blockchain ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมากขึ้น และกลายเป็นเรื่องปกติเช่นอินเทอร์เน็ต
เมื่อเราทำการใช้งานอุปกรณ์ใด ๆ ก็ตาม เราจะได้รับโทเคนกลับมาเป็นการตอบแทน ยกตัวอย่างเช่น รถมีเครื่องขุดคริปโตติดอยู่ในเครื่องยนต์ ทำให้เมื่อเราอนุญาตให้เราบริษัทเจ้าของรถสามารถเก็บข้อมูลเกี่ยวกับยานยนต์ของเรา และเมื่อเารทำการขับขี่มัน เราจะได้รับการตอบแทนเป็นโทเคนกลับมาเข้า Wallet เราโดยตรง ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดต่าง ๆ ได้เช่น นำโทเคนไปแลกบริการซ่อมรถ, ต่อประกัน หรือซื้ออะไหล่ใหม่เป็นต้น
ในอนาคต Blockchain และ Cryptocurrency จะทำให้เรามีอำนาจในข้อมูลของเรามากยิ่งขึ้น และสามารถเลือกได้ว่าจะให้ข้อมูลของเรากับใคร พร้อมทั้งสามารถสร้างผลประโยชน์จากมันได้ด้วย ระบบต่าง ๆ จะกระจายอำนาจมากไปสู่ผู้ใช้มากขึ้น
มากกว่าการลงทุน
ปัจจุบัน การที่ผู้คนส่วนใหญ่เข้าสู่วงการคริปโตนั้น เกิดจากพวกเขาต้องการที่จะทำกำไรโดยการลงทุนในสินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีในระยะเวลาสั้น ๆ แต่ในอนาคตด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นไปอย่างรวดเร็ว จะทำให้มันกลายเป็นมากกว่าเครื่องมือในการลงทุน แต่มันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนไปเลย เช่นเดียวกันการที่ตอนแรก มือถือเป็นเพียงเครื่องมือสื่อสารกันเท่านั้น แต่เมื่อมันพัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ มันกลายเป็นสิ่งที่คนเราไม่สามารถขาดได้ในชีวิตประจำวันเลย และผู้เขียนเชื่อว่าในอนาคตคริปโตจะเข้ามามีผลกระทบเช่นเดียวกันกับที่มือถือ
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น