ในขณะที่ตลาดคริปโตกำลังซบเซาและราคา Bitcoin ร่วงลงมาทดสอบแนวรับสำคัญ เฮนริก ซีเบิร์ก (Henrik Zeberg) หนึ่งในนักวิเคราะห์มหภาคที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาด ได้ออกมาสวนกระแส โดยเขามองว่าความเจ็บปวดในปัจจุบันเป็นเพียง “การปรับอารมณ์” (Emotional Reset) ของตลาด ก่อนที่จะเกิดการพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงครั้งสุดท้าย
ทฤษฎี Elliott Wave ‘ยอมแพ้’ คือสัญญาณ ‘กระทิง’
ซีเบิร์กอ้างอิงทฤษฎี Elliott Wave โดยระบุว่าสถานะของ Bitcoin, Ethereum และตลาดคริปโตโดยรวมในปัจจุบัน อยู่ในช่วง “Wave 2 Capitulation” หรือ “คลื่นแห่งการยอมจำนน” ซึ่งยังคงอยู่ในวัฏจักรขาขึ้น
ตามทฤษฎีนี้ เวทีนี้มักจะเป็นช่วงที่ “ความเชื่อมั่นของตลาดตกต่ำที่สุด” ซึ่งเป็นจังหวะที่นักลงทุนมักจะ “ยอมแพ้” และเทขายของทิ้ง ก่อนที่ราคาจะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงแบบ Parabolic “การยอมจำนนคือการรีเซ็ตอารมณ์ก่อนที่การแสดงองก์สุดท้ายจะเริ่มขึ้น ไม่ใช่จุดจบ” ซีเบิร์กกล่าว “ในตลาดกระทิง นี่คือจุดที่เราควรจะรู้สึกแย่ที่สุด”
กราฟเทคนิค: แค่พักฐาน-ยังไม่เสียทรง
การตีความของซีเบิร์กสอดคล้องกับโครงสร้างทางเทคนิคในปัจจุบันของ Bitcoin หลังจากที่ไม่สามารถยืนเหนือ 114,000 ดอลลาร์ได้ ราคาได้ย่อตัวลงมาอยู่ที่ประมาณ 108,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญอย่างเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (EMA 200) พอดี แม้ว่าค่า RSI จะอยู่ที่ระดับ 40 ซึ่งบ่งชี้ถึงความกลัวและความอ่อนล้า แต่ก็ยังไม่ถือว่าโครงสร้างขาขึ้นได้พังทลายลง
เป้าหมาย $160,000 – จุดจบของ ‘ฟองสบู่ทุกสิ่ง’
ซีเบิร์กเชื่อว่า คลื่นลูกต่อไป (Waves 3(4)-5) จะเป็นการเคลื่อนไหวที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเขาคาดว่า Bitcoin จะพุ่งขึ้นไปสูงกว่า 160,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ Ethereum จะพุ่งตามในแนวตั้ง โดยอาจไปถึง 6,000, 7,500, 10,000 หรือแม้กระทั่ง 12,000 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ซีเบิร์กได้เตือนว่า นี่จะเป็น “เฟสสุดท้ายของฟองสบู่ทุกสิ่ง” (Everything Bubble) ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะเกิดการ “ล่มสลาย” ของภาวะเงินฝืดครั้งใหญ่ตามมา
ที่มา: X