บริษัทคริปโต World Liberty Financial (WLFI) ที่มีความเชื่อมโยงกับประธานาธิบดี Donald Trump และครอบครัว กำลังตกเป็นเป้าครั้งใหญ่ หลังวุฒิสมาชิกเดโมแครตสองรายออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลกลางเปิดการสอบสวน โดยอ้างว่าบริษัท WLFI ขายโทเคนให้กับกระเป๋าเงินที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือและรัสเซีย ซึ่งอาจกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ
วุฒิสมาชิก Elizabeth Warren และ Jack Reed ได้ส่งจดหมายถึงอัยการสูงสุด Pamela Bondi และรัฐมนตรีคลัง Scott Bessent โดยระบุว่า มีข้อมูลจากรายงานของ CNBC ที่ชี้ว่า โทเคนกำกับดูแลของ WLFI ถูกซื้อโดยกระเป๋าที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานต่างชาติที่ถูกคว่ำบาตร

รายงานดังกล่าว อ้างอิงการเปิดเผยขององค์กรตรวจสอบ Accountable.US เมื่อเดือนกันยายน ที่ระบุว่า WLFI ขายโทเคนให้กับ “ที่อยู่ On-chain” หรือกระเป๋าคริปโตที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มแฮ็กเกอร์ Lazarus Group ของเกาหลีเหนือ, ผู้ใช้ที่ต้องการหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรของรัสเซีย, กระดานเทรดในอิหร่าน รวมถึงโปรโตคอลปกปิดธุรกรรมอย่าง Tornado Cash
วุฒิสมาชิกทั้งสองเตือนว่า การขายโทเคนลักษณะนี้อาจ “เปิดทางให้ศัตรูมีอิทธิพลต่อการกำกับดูแลโปรโตคอล” ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงโดยตรงต่อความมั่นคง อย่างไรก็ตาม WLFI ปฏิเสธทันที โดยยืนยันว่า บริษัทดำเนินการตรวจสอบ AML/KYC อย่างเข้มงวดในช่วงพรีเซลล์ และปฏิเสธเงินลงทุนจำนวนมากจากผู้ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ
ประเด็นนี้ร้อนแรงขึ้นไปอีกเมื่อพบว่า ครอบครัวประธานาธิบดีมีบทบาทสำคัญในบริษัท โดย Eric Trump, Donald Trump Jr. และ Barron Trump ถูกระบุว่าเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ขณะที่ Donald Trump ถูกระบุว่าเป็น “ผู้ร่วมก่อตั้งกิตติมศักดิ์”
องค์กรที่เชื่อมโยงกับครอบครัวทรัมป์ในชื่อ DT Marks DEFI LLC ยังถือครองโทเคน WLFI มากถึง 2.25 หมื่นล้านโทเคน มูลค่ากว่า 3 พันล้านดอลลาร์ และมีสิทธิ์รับรายได้ถึง 75% จากการขายโทเคนทั้งหมด ซึ่งทางฝั่งวุฒิสมาชิกมองว่า อาจเป็น “ผลประโยชน์ทับซ้อนโดยตรง”
นอกจากนี้ วุฒิสมาชิกทั้งสองยังเตือนอีกว่า การเติบโตอย่างรวดเร็วของ WLFI ทั้งแผนการออกบัตรเดบิตและโทเคนสินค้าโภคภัณฑ์ ผนวกกับข้อกล่าวหาเรื่องการกำกับดูแลที่หย่อนยาน อาจนำไปสู่ “ความเสี่ยงต่ออาชญากรรมทางการเงินระดับรุนแรง”
ความกังวลเพิ่มขึ้นอีก เมื่อมีรายงานว่า Stablecoin (USD1) ของ WLFI ถูกนำไปใช้ในดีลลงทุนกว่า 2 พันล้านดอลลาร์บน Binance โดยกองทุน MGX จาก UAE ก่อน รัฐบาลอาบูดาบีจะได้สัญญาซื้อชิปสำคัญจากสหรัฐฯ
ในขณะที่รายงาน ทางด้าน WLFI ยังไม่มีการออกมาแสดงความเห็นใดๆ ต่อข้อกล่าวหาดังกล่าว
ที่มา:cointelegraph

