ปัจจุบันเรากำลังเข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อก่อนการเข้าสู่เดือนสุดท้ายของปีที่เป็นฤดูกาลแห่งเทศกาล ทว่าในสัปดาห์นี้ตลาดการลงทุนยังคงต้องเผชิญกับปัจจัยสร้างความตึงเครียดหลายด้าน ทั้งการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ การเคลื่อนไหวทางการเมือง รวมถึงวันหยุดใหญ่ของสหรัฐฯ อย่างวันขอบคุณพระเจ้าและ Black Friday
วันจันทร์: ตลาดเปิดทำการอีกครั้งหลังช่วงวันหยุด สิ่งที่น่าสนใจในวันนี้คือการที่อาจเกิดแรงขายกลับเข้าสู่ตลาด ซึ่งอาจส่งผลให้กำไรที่สะสมไว้ในช่วงวันหยุดก่อนหน้าหายไปได้
วันอังคาร: นักลงทุนต้องจับตาการรายงานตัวเลข ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ข้อมูลนี้จะส่งผลโดยตรงต่อการคาดการณ์การตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม
วันพุธ: ถือเป็นวันที่มีการรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ต้องเฝ้าระวังมากที่สุด ประกอบด้วย ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) เพื่อดูภาพรวมการเติบโต, จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญของตลาดแรงงาน, และที่สำคัญที่สุดคือ ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ Fed ใช้เป็นหลัก ข้อมูลจากฝั่งแรงงานและเงินเฟ้อเหล่านี้จะมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการกำหนดทิศทางนโยบายของ Fed ต่อไป
วันพฤหัสบดี: ตลาดสหรัฐฯ จะปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) ซึ่งหมายความว่าสภาพคล่องในตลาดจะลดลงอย่างมาก ส่งผลให้ความผันผวนของราคาในตลาดที่ยังเปิดทำการอยู่ อาจมีความรุนแรงผิดปกติได้
วันศุกร์: เป็นวัน Black Friday ตลาดสหรัฐฯ จะยังคงมีความเคลื่อนไหวจำกัด เนื่องจากมีการ ปิดทำการครึ่งวัน สถานการณ์เช่นนี้จะทำให้สภาพคล่องในตลาดโดยรวมลดลง ซึ่งอาจนำไปสู่การเคลื่อนไหวของราคาที่ผันผวนได้เช่นกัน
Bitcoin จะร่วงเพราะ Black Friday ไหม ?
สุดท้ายนี้นักลงทุนหลายท่านอาจมีความสงสัยว่าราคา Bitcoin จะปรับตัวลดลงตามกระแส Black Friday หรือไม่ แม้ว่าเราจะไม่สามารถให้คำตอบที่แน่นอนได้ แต่จากการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา ราคา Bitcoin โดยทั่วไปมักจะไม่ปรับตัวลดลงตามกระแส Black Friday ในทางกลับกันกลับมีแนวโน้มส่วนใหญ่ที่จะปรับตัว เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันดังกล่าว ซึ่งเป็นข้อสังเกตที่แตกต่างจากสมมติฐานที่ว่านักลงทุนจะขายสินทรัพย์เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในช่วงเทศกาล
อีกประเด็นคือ แม้ตลาดหุ้นจะปิดทำการครึ่งวันในวันศุกร์ ซึ่งลดสภาพคล่อง แต่ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีมีการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ การลดลงของสภาพคล่องในตลาดดั้งเดิมจึงมีผลกระทบต่อ Bitcoin น้อยกว่าเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ
ดังนั้น โดยสรุปแล้ว Black Friday อาจจะไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลงอย่างมีนัยสำคัญ ความผันผวนใด ๆ ที่เกิดขึ้นในสัปดาห์นี้จะยังคงมาจากตัวเลขเศรษฐกิจหลัก เช่น ดัชนี PCE และการคาดการณ์ทิศทางดอกเบี้ยของ Fed มากกว่าแรงกดดันจากการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลวันหยุด