<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ฟีลกระทิงมาเต็ม! โพลของ Myriad ชี้นักเทรดเชื่อ Crypto Winter สิ้นสุดแล้ว คริปโตเตรียมวิ่งยาว?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นักเทรดบนแพลตฟอร์มทำนายราคา Myriad แสดงความเชื่อมั่นว่า ตลาดคริปโตจะไม่เข้าสู่ภาวะ “Crypto Winter” ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดอยู่ในภาวะซบเซาและเป็นขาลง โดยในตลาดคำทำนายล่าสุด มีผู้ที่เชื่อว่าตลาดคริปโตกำลังเข้าสู่ภาวะ Crypto Winter เพียง 9% เท่านั้น ซึ่งลดลงอย่างมากจาก 30% เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ความเชื่อมั่นในเชิงบวกนี้สอดคล้องกับการดีดตัวของตลาด โดยราคา Bitcoin (BTC) พุ่งกลับไปเหนือระดับ 92,043 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6.32% ภาย ใน 24 ชั่วโมง แม้ว่าจะยังคงลดลงประมาณ 27% จากจุดสูงสุดที่ $126,000 ดอลลาร์ ก็ตาม

ด้าน Ethereum (ETH) ราคาก็มีการพุ่งขึ้นเช่นกัน โดยราคาซื้อขายอยู่ที่ 3,019.19 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7.94 % ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งนักลงทุนกำลังให้ความสนใจกับการอัปเกรด Fusaka ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยจะเปลี่ยนวิธีการประมวลผลข้อมูลของเครือข่าย Layer 2 บน Ethereum แม้ว่าราคา ETH จะยังคงลดลงกว่า 20% ในรอบเดือน

ซึ่งตลาดทำนายราคา Myriad ได้กำหนดเกณฑ์ชี้วัด ที่ระบุว่า ตลาดคริปโตได้เข้าสู่ภาวะ “Crypto Winter” แล้ว หากเข้าเงื่อนไข 3 ใน 4 ข้อ ดังต่อไปนี้  1) ราคา Bitcoin ร่วงเหลือ $35,000 ดอลลาร์ , 2) ราคา Ethereum ร่วงลงเหลือ $1,000 ดอลลาร์, 3) หุ้น MicroStrategy (MSTR) ร่วงเหลือ $50 ดอลลาร์, และ 4) มูลค่าตลาดรวมคริปโต ลดลงเหลือ $350,000 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของตลาดคริปโตในปัจจุบันแสดงให้เห็นว่า ราคาและมูลค่าตลาดรวมยังไม่มีข้อใดที่เข้าใกล้เกณฑ์ดังกล่าว เลยแม้แต่น้อย ซึ่งหมายความว่า ตามการวิเคราะห์ของตลาดทำนายราคา Myriad นั้น สัญญาณของ “Crypto Winter” จึงยังไม่มาในเวลานี้

ภาวะ Crypto Winter ในช่วงปี 2021–2023 ถือเป็นวิกฤตที่รุนแรง โดยมีสาเหตุหลักมาจากฟองสบู่แตกหลังยุคโควิด ตามมาด้วย การล่มสลายทั้งเครือข่ายของ Terra/LUNA และเกิด Domino Effect ที่ทำให้สถาบันขนาดใหญ่อย่าง 3AC (Three Arrows Capital) และเว็บเทรด FTX พังทลายตามมา 

ในช่วงเวลานั้นราคา Bitcoin ได้ดิ่งลงอย่างรุนแรงจากจุดสูงสุดที่ $69,000 ดอลลาร์ เหลือเพียง $16,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเกือบ 75% ส่งผลให้เงินทุน Venture Capital (VC) และปริมาณการซื้อขายในตลาดหายไปอย่างมหาศาล

แม้ว่าสัญญาณตลาดคริปโตในปัจจุบันจะยังไม่ถึงขั้นโคม่า แต่ก็ยังคงมีแรงกดดันสำคัญที่ต้องจับตา ได้แก่ ความกังวลเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และ ผลการประชุม FOMC ของสหรัฐฯ รอบสุดท้ายในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจะมีส่วนกำหนดทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) 

โดยนักวิเคราะห์หลายสำนักต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ผลการประชุมของ Fed คือตัวแปรสำคัญที่สุดที่จะกำหนดทิศทางราคา Bitcoin ในช่วงท้ายปีนี้

ที่มา : decrypt