<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

รู้จักกับอัจฉริยะวัย 18 ที่ทำงาน 100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์สร้าง 3 แอป AI จนติด Top 100 ใน App Store  

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Robert Mukhametov ผู้ก่อตั้ง RM Company ซึ่งเป็นสตูดิโอพัฒนาแอปพลิเคชันขนาดเล็กได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขาสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ทัดเทียมกับบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ได้สำเร็จ เขาคือผู้อยู่เบื้องหลัง แอปพลิเคชัน AI ถึง 3 ตัว ที่ติดอันดับ Top 100 บน App Store โดยแอปเหล่านี้ครอบคลุมตั้งแต่ด้านสุขภาพ, การเงิน, ไปจนถึงการช่วยผู้บริโภคตัดสินใจได้อย่างโปร่งใส 

สิ่งที่น่าทึ่งคือ ผลงานทั้งหมดนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยตัวเขาเองเพียงคนเดียว โดยไม่ได้ระดมทุนจากนักลงทุนภายนอกเลย และที่น่าทึ่งยิ่งกว่าคือ นี่คือ “งานแรก” ในชีวิตการทำงาน ของเขา

Robert Mukhametov เริ่มต้นสร้างแอปพลิเคชันตั้งแต่อายุเพียง 16 ปี แต่เขากลับ ไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน เลยแม้แต่น้อย เขาจึงคิดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องขอทุนก็ได้ สร้างเองก็ได้” จึงตัดสินใจใช้ รายได้ที่ได้จากแอปพลิเคชันตัวก่อนหน้า มาเป็นเงินทุนในการพัฒนาแอปตัวใหม่ ๆ ต่อไป ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เขาคือ สายที่สร้างธุรกิจด้วยเงินตัวเองอย่างแท้จริง (Bootstrap) 

Robert Mukhametov กล่าวว่า “พอไม่มีเงินเยอะ คุณจะรู้เลยว่าอะไรสำคัญ อะไรไร้สาระ การใช้เงินไปโฆษณาบนบิลบอร์ดสวย ๆ นั้น ไม่สำคัญเท่ากับการทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น” 

Robert Mukhametov ได้สร้างความสำเร็จด้วยการพัฒนา แอปพลิเคชัน AI 3 ตัว ที่ติดอันดับ Top 100 บน App Store ดังนี้

1. CalSnap แอปถ่ายรูปอาหารปุ๊บ AI คำนวณแคลทันที ติดอันดับที่ 76 ในหมวดสุขภาพ เป็นแอปพลิเคชันนับแคลอรีที่ใช้งานง่ายมาก โดยผู้ใช้งานเพียงแค่ ถ่ายรูปอาหาร จากนั้น AI ก็จะประเมินแคลอรี และข้อมูลโภชนาการให้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ข้อมูลเอง

2. Lumin แอปสแกนบาร์โค้ด ดูคะแนนสุขภาพของสินค้าง่าย ๆ ติดอันดับที่ 36  ใน App Store เป็นแอปที่ช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้อย่างชาญฉลาด โดยการ สแกนบาร์โค้ด แล้วแอปจะแสดงคะแนนเกี่ยวกับด้านสุขภาพของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ พร้อมแปลส่วนผสมที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย และแนะนำทางเลือกที่ดีกว่า แอปนี้ได้รับความเชื่อถือสูง เพราะเป็นกลาง ไม่มีดีลลับกับแบรนด์สินค้าใด ๆ

3. TradeGenius แอปตามรอยการเทรดของนักการเมืองสหรัฐ ติดอันดับ 52 หมวดการเงิน เป็นแอปที่ติดตามและแจ้งเตือนการซื้อขายหุ้นของนักการเมืองสหรัฐฯ โดยใช้ข้อมูลสาธารณะ ซึ่งสร้างขึ้นจากความสงสัยที่ว่านักการเมืองมักทำผลตอบแทนชนะตลาดอยู่เสมอ ทำให้แอปนี้เปิดเผยสิ่งที่นักการเมืองบางส่วนอาจไม่ต้องการให้สาธารณะรู้

เป้าหมายต่อไปของ Robert Mukhametov คือ การรุกเข้าสู่ ตลาดสุขภาพจิต ซึ่งยังคงมีช่องว่างและมีความต้องการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเขาได้เริ่มสร้าง แอป AI นักจิตวิทยา แล้ว ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจริง เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

Robert Mukhametov ยึดมั่นในปรัชญาที่ว่า “ถ้าคิดแต่จะหาเงิน คนจะไม่แคร์แอปคุณ แต่ถ้าช่วยแก้ปัญหาที่คนต้องการจริง ๆ เดี๋ยวเขายอมจ่ายเอง” กลยุทธ์ของเขาจึงเป็นการเน้นการแก้ปัญหาของผู้ใช้ เป็นหลัก โดยเขาจะปล่อยให้ผู้ใช้ได้ทดลองใช้ฟรีในตอนแรก เพื่อวัดผลที่สำคัญคือ อัตราการกลับมาใช้งานซ้ำ (Retention) เพราะเขาเชื่อว่า หากผู้ใช้ไม่กลับมาใช้ซ้ำ การเพิ่มระบบจ่ายเงินก็ไม่มีประโยชน์ 

นอกจากนี้ ทุกโปรเจกต์ของเขายังเป็นแบบ “AI-first” โดยใช้เครื่องมืออย่าง ChatGPT และ Codex เพื่อเร่งความเร็วในการพัฒนา ซึ่งความสำเร็จนี้ เกิดจากความเชี่ยวชาญด้าน AI ที่เขามีมานานแล้ว 

Robert Mukhametov เปิดเผยว่า “ผมเล่น AI มาตั้งแต่ก่อน ChatGPT จะดัง ชอบเทรนโมเดลเล่นบนบ้านตั้งนานละ” 

สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า ความเข้าใจใน AI คือหัวใจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของเขา

Robert Mukhametov ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ผู้ใช้ (UX) เป็นอันดับแรก โดยเขาใช้กลไกต่าง ๆ เช่น ระบบ Streaks (การนับจำนวนวันที่ทำติดต่อกัน) เพื่อกระตุ้นวินัยของผู้ใช้งาน และแอปพลิเคชันทุกตัวจะได้รับการออกแบบเฉพาะทางเพื่อ หลีกเลี่ยงการใช้หน้าตาสำเร็จรูปทั่วไป 

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาแอปพลิเคชันย่อมมาพร้อมความท้าทาย โดย Robert Mukhametov  ยอมรับว่า “Bug ไม่มีวันหมด และต้องแก้ไขอัปเดตตลอดเวลา” 

แม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องบั๊กที่ต้องแก้ไขและมีการอัปเดตแอปอยู่ตลอดเวลา แต่ Robert Mukhametov ก็ยังคง ดำเนินการทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมด จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ เขาเพิ่งจะเริ่มสร้าง ทีมการตลาด ขึ้นมาเพื่อช่วยงาน เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้เอง

ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้แอปพลิเคชันของ Robert Mukhametov สามารถติดอันดับ Top 100 ได้อย่างต่อเนื่อง คือ การให้ความสำคัญกับ คุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม โดยรักษา อัตราการกลับมาใช้งานซ้ำในระดับสูง, มีการอัปเดตแอปทุกสัปดาห์, และพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการตั้งราคาที่ ผู้ใช้สามารถจ่ายได้ 

อย่างไรก็ตาม Mukhametov ไม่ได้พอใจกับความสำเร็จแค่นั้น เขามีเป้าหมายที่สูงกว่าคือ “Top 10 แต่ยังไม่พอ ต้อง Top 10 ทุกหมวด” 

นอกจากนี้ เขายังได้ขยายธุรกิจไปสู่แพลตฟอร์มเกม Roblox แล้ว โดยเกมแรกที่ปล่อยออกมาก็ทำสถิติ ได้ดีกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรมอย่างขาดลอย

ชีวิตส่วนตัวของ Robert Mukhametov นั้นแทบจะไม่มีเลย เพราะเขาทุ่มเทให้กับการทำงานหนักถึง 100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ 

Robert Mukhametov เปิดเผยว่า ได้ลองใช้ชีวิตแบบคนทั่วไปมาแล้ว ทั้งการปาร์ตี้และการเล่นเกม แต่สุดท้ายเขาก็กลับมาทุ่มเทให้กับการ “สร้างสิ่งใหม่ ๆ” อยู่ดี 

“ผมชอบช่วยให้ชีวิตคนดีขึ้น” 

ปัจจุบันเขายังได้แบ่งเวลาอันน้อยนิดของเขาเพื่อ ให้คำแนะนำกับเด็ก ๆ ที่สนใจเริ่มต้นสร้างธุรกิจ อีกด้วย

Robert Mukhametov ถือเป็นตัวแทนของผู้ก่อตั้งธุรกิจในยุคใหม่ ที่ประสบความสำเร็จด้วยชุดความคิดที่แตกต่างอย่างชัดเจน ทั้งกลัวความล่าช้ามากกว่ากลัวความล้มเหลว ทำให้เขาลงมือทำทันที, คิดระดับโลกตั้งแต่วันแรก โดยไม่จำกัดตัวเองอยู่แค่ในตลาดท้องถิ่น, ไม่รอการอนุญาตจากใครในการเริ่มต้นสร้างสรรค์ผลงานด้วยตัวเอง, ใช้ AI เป็นผู้ช่วยสำคัญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว, และที่สำคัญคือ เน้นสร้างสิ่งที่ผู้คนรัก และแก้ปัญหาได้จริง ก่อนจะสนใจวิธีการหาเงิน 

ชุดความคิดเหล่านี้ ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ผู้สร้างแอปพลิเคชัน และนักธุรกิจทุกคนในยุค 2025 และปีต่อ ๆ ไป จะต้องนำไปปรับใช้

ที่มา : tech eu