วันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญในประวัติศาสตร์ของ Ethereum เมื่อการอัปเกรดเครือข่ายครั้งใหญ่ในชื่อ “Fusaka” มีกำหนดเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ โดยไฮไลท์สำคัญคือการเพิ่มขีดจำกัด Block Gas จากเดิม 45 ล้าน เป็น 150 ล้าน ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัว
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ถูกคาดหวังว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาคอขวดด้านความสามารถในการรองรับธุรกรรม (Scalability) ที่เรื้อรังมานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครือข่าย Layer 2 (L2 Rollups) ต่างๆ ให้สามารถประมวลผลธุรกรรมได้รวดเร็วขึ้นสูงสุดถึง 3 เท่า และช่วยลดต้นทุนด้าน Data Availability ลงอย่างมีนัยสำคัญตามการวิเคราะห์ของ CoinMetrics
นอกจากนี้ การอัปเกรด Fusaka ยังมาพร้อมกับการแนะนำเทคโนโลยี PeerDAS (Peer Data Availability Sampling) ซึ่งเอกสารจาก ConsenSys ระบุว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบข้อมูลสำหรับ Rollups ให้ดียิ่งขึ้น ตอกย้ำสถานะของ Ethereum ในฐานะเลเยอร์การชำระบัญชีที่มั่นคงและปลอดภัย ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดจากคู่แข่งอย่าง Solana
บรรยากาศบนแพลตฟอร์ม X ในช่วงเช้าวันนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นจากชุมชนผู้ใช้งานและนักพัฒนา หลายฝ่ายต่างตั้งตารอที่จะได้เห็นค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ถูกลงและการใช้งานที่ลื่นไหลขึ้น โดยจนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานถึงปัญหาทางเทคนิคหรือการหยุดชะงักของเครือข่ายแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการอัปเกรดทางเทคนิคจะถือเป็นข่าวดีในระยะยาว แต่ผลกระทบต่อราคาเหรียญ ETH ในระยะสั้นยังคงเป็นเรื่องของการเก็งกำไร ท่ามกลางสภาวะตลาดคริปโตฯ ในปี 2025 ที่ยังคงมีความผันผวนสูง นักลงทุนจึงควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ที่มา: @Cointelegraph