วงการคริปโทเคอร์เรนซีฝั่งเอเชียต้องเกิดขวัญผวากันอีกรอบ เมื่อทางการจีนประกาศยกระดับมาตรการคุมเข้มขั้นสูงสุด ในการปราบปรามคริปโตเคอเรนซี่
สมาคมอุตสาหกรรมการเงินชั้นนำของจีน 7 แห่ง ได้ออกแถลงการณ์เตือนความเสี่ยงร่วมกันในเรื่องของกิจกรรมทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมด รวมถึง Stablecoins, Airdrops, การขุด และที่สำคัญคือ การแปลงสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริงให้เป็นโทเคน (RWA tokenization)
การผนึกกำลังครั้งนี้ประกอบด้วยสมาคมยักษ์ใหญ่ครอบคลุมทั้ง ธนาคาร, หลักทรัพย์, กองทุน, ฟิวเจอร์ส, การชำระเงิน, บริษัทจดทะเบียน และการเงินอินเทอร์เน็ต โดยแถลงการณ์ลงวันที่ 5 ธันวาคม ระบุว่า กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโทฯ ที่ระบุไปข้างต้นถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในจีน
นักวิเคราะห์เปรียบเทียบเหตุการณ์นี้ว่าเหมือนกับเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2021 ที่หน่วยงานรัฐ 10 แห่งเคยร่วมมือกันขับไล่ Exchange และเหมืองขุด Bitcoin ออกจากประเทศจนเกลี้ยง ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการกลับมารวมตัวกันครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี เพื่อสร้าง “กำแพง 4 ชั้น” ปิดล้อมอุตสาหกรรมคริปโทฯ ในทุกมิติ
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานหลังจากมูลค่าตลาดของ RWA tokenization เติบโตทะลุ $3 หมื่นล้าน ซึ่งเป็นผลมาจากผู้เล่นรายใหญ่อย่าง BlackRock ได้ทำการตั้ง BUIDL fund ขึ้นและทำให้ RWA เริ่มเป็นที่ยอมรับ
ขณะเดียวกันรายงานเดือนธันวาคมระบุว่า การฟอกเงินผ่านสินทรัพย์เสมือนจริง ได้มีอัตราเพิ่มขึ้นแบบปีต่อปีถึง 37% ทำให้ต้องเร่งกำกับดูแลโดยด่วน
หน่วยงานกำกับดูแลของจีนได้แสดงความกังวลว่าโทเคน RWA จะกลายเป็นเครื่องมือในการโยกย้ายเงิน เพราะมันจะสามารถทำให้นักเทรดสามารถแปลงสินทรัพย์ภายในประเทศให้กลายเป็นโทเคน จากนั้นก็ส่งไปยัง Wallet และแลกออกมาเป็นสกุลเงินต่างชาติโดยไม่ต้องผ่านระบบธนาคาร หรือการควบคุมการแลกเปลี่ยนใดๆ
แถลงการณ์ได้เน้นย้ำอีกครั้งว่าสินทรัพย์เสมือนจริงรวมถึง Stablecoins นั้นไม่มีสถานะทางกฎหมาย บุคคล หรือองค์กรใดก็ตาม ไม่มีสิทธิที่จะเป็นผู้ออกเหรียญ, รับแลกเปลี่ยน หรือระดมทุนใด ๆ ผ่าน RWA หรือสินทรัพย์จำลองภายในจีนแผ่นดินใหญ่ และข้อบังคับนี้ส่งผลไปถึงบริษัทต่างชาติที่ทำการว่าจ้างและตั้งถิ่นฐานภายในประเทศจีน
ประกาศดังกล่าวยังขีดเส้นแบ่งที่ชัดเจนระหว่าง “จีนแผ่นดินใหญ่” ที่เน้นนโยบาย Zero-Crypto กับ “ฮ่องกง” ที่กำลังดำเนินนโยบายเป็นมิตรกับสินทรัพย์ดิจิทัล โดยปัจจุบันฮ่องกงยังคงเป็นพื้นที่พิเศษที่มีการอ้าแขนเปิดรับสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ทางจีนกำลังมุ่งเน้นให้มีการใช้งานหยวนดิจิทัล (e-CNY) แทนสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ
วัยรุ่นจีนเดือด! รู้สึก “ตกรถ” ความมั่งคั่งระดับโลก
มาตรการที่เข้มงวดนี้จุดชนวนความไม่พอใจในโลกออนไลน์จีน โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ที่รู้สึกว่าตนเองกำลังถูกกีดกันออกจากโอกาสในการสร้างความมั่งคั่ง
ความหงุดหงิดนี้เกิดจากการที่เห็นราคา Bitcoin และตลาดคริปโทฯ ทั่วโลกพุ่งทะยาน ในขณะที่สหรัฐฯ เริ่มผ่อนปรนกฎระเบียบ แต่พวกเขากลับทำได้แค่ยืนมองตาปริบๆ และถูกจำกัดสิทธิด้วยกำแพงข้อกฎหมายที่สวนทางกับนวัตกรรมโลก
ที่มา : Beincrypto

