(18 ธ.ค. 2025) – วงการคริปโทเคอร์เรนซีและตลาดอนุพันธ์สหรัฐฯ มีข่าวสำคัญที่ต้องจับตา เมื่อวุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ลงมติรับรองนาย Michael Selig ให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) คนใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว การแต่งตั้งครั้งนี้สร้างความฮือฮาอย่างมาก เนื่องจาก Selig มีจุดยืนที่ชัดเจนในการ “สนับสนุนคริปโทฯ” (Pro-crypto) ท่ามกลางการถกเถียงเรื่องทิศทางกฎระเบียบในอุตสาหกรรมที่กำลังร้อนแรง
Michael Selig ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญตัวจริงในแวดวงนี้ เขาเคยเป็นหัวหน้าทนายความประจำ Crypto Task Force ของสำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC) และเป็นทนายความด้านสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีประสบการณ์สูง จุดเด่นของเขาคือการสนับสนุนแนวทางการกำกับดูแลที่ “อิงตามหลักการ” (Principles-based regulation) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ตกผลึกมาจากประสบการณ์ตรงในการทำคดีบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งใน SEC และ CFTC การขึ้นสู่ตำแหน่งนี้ของเขาภายใต้การเสนอชื่อของประธานาธิบดีทรัมป์ จึงทำให้อุตสาหกรรมคาดหวังว่าจะได้เห็นการกำกับดูแลตลาดอนุพันธ์คริปโทฯ ที่ “ผ่อนคลายลง” (Lighter-touch oversight) ซึ่งน่าจะช่วยกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ในตลาดได้มากขึ้น
ควบคู่ไปกับการแต่งตั้งประธานคนใหม่ CFTC ยังมีความเคลื่อนไหวสำคัญภายใต้การนำของ Caroline D. Pham รักษาการประธาน ที่กำลังเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะเกี่ยวกับการอนุญาตให้เทรดเดอร์รายย่อยสามารถเข้าถึงบริการชำระบัญชีอนุพันธ์ (Derivatives Clearing) ได้โดยตรง ผ่านองค์กรรับชำระบัญชี (DCOs) โดยไม่ต้องผ่านโบรกเกอร์ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการผลักดันมาตรการคุ้มครองนักลงทุนรายย่อยในตลาดอนุพันธ์ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
ข้อเสนอนี้มีเป้าหมายเพื่อตอบสนองต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วของโมเดลการเข้าถึงตลาดโดยตรง (Direct Access Models) ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2022 โดย CFTC เน้นย้ำว่าจุดโฟกัสสำคัญคือการหาแนวทางลดความเสี่ยงและสร้างมาตรการคุ้มครองที่เหมาะสม เพื่อป้องกันปัญหาการฉ้อโกงซ้ำรอย ดังที่เคยเกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์ Binary Options สำหรับรายย่อยในอดีต
หากแนวทางนี้ประสบความสำเร็จ คาดว่าจะช่วยยกระดับธรรมาภิบาลและความโปร่งใสในตลาดอนุพันธ์สำหรับรายย่อยให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงการกำกับดูแลผลิตภัณฑ์อย่าง Crypto Futures ด้วย โดยอาจมีการกำหนดหมวดหมู่ย่อยใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อใช้ในการกำกับดูแลโดยเฉพาะ ทั้งนี้ CFTC ได้เปิดให้สาธารณชนและผู้ที่เกี่ยวข้องส่งความคิดเห็นได้จนถึงวันที่ 19 มกราคม 2026 ผ่านทางเว็บไซต์ของหน่วยงาน
ที่มา:@Cointelegraph ,@ WatcherGuru

