เช้าวันนี้ (29 ธ.ค.) ตลาดคริปโตกลับมาคึกคักอย่างมีนัยสำคัญ โดยราคา Bitcoin (BTC) ดีดตัวพุ่งขึ้นแตะระดับ 88,000 ดอลลาร์อีกครั้ง การปรับตัวขึ้นครั้งนี้เกิดขึ้นทันทีที่ตลาดขานรับข่าวความคืบหน้าครั้งใหญ่ หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ต้อนรับประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน Mar-a-Lago ในรัฐฟลอริดา เพื่อหารือถึงแผนยุติสงครามที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 4 ปี โดยทั้งสองฝ่ายส่งสัญญาณบวกที่ทำให้นักลงทุนทั่วโลกเริ่มมีความหวัง

แรงซื้อที่ไหลกลับเข้ามาอย่างหนาแน่นในช่วงเช้านี้ เป็นผลพวงโดยตรงจากการเปิดเผยรายละเอียดของการหารือ ที่ระบุว่า “แผนสันติภาพ 20 ข้อฉบับปรับปรุง” นั้นมีความคืบหน้าไปมาก โดยประธานาธิบดีเซเลนสกียืนยันตัวเลขชัดเจนว่าแผนดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์ไปแล้วถึง 90% สอดคล้องกับท่าทีของทรัมป์ที่ระบุด้วยความมั่นใจว่า สถานการณ์กำลังเข้าใกล้จุดสิ้นสุดของสงครามแล้ว ซึ่งถือเป็นถ้อยคำที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดทุนและสินทรัพย์เสี่ยงอย่างมาก
นอกจากภาพการพูดคุยของสองผู้นำแล้ว ปัจจัยสำคัญที่เปรียบเสมือนเชื้อเพลิงผลักดันราคา Bitcoin ในรอบนี้คือการเปิดเผยของทรัมป์ว่า ก่อนที่เซเลนสกีจะเดินทางมาถึง เขาได้ต่อสายตรงหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง โดยทรัมป์อ้างว่า ปูตินแสดงความต้องการอย่างหนักแน่นที่จะเห็นข้อตกลงนี้เกิดขึ้นจริง ข้อมูลนี้ทำให้นักลงทุนสถาบันเริ่มคลายความกังวลและมองเห็นโอกาสที่เสถียรภาพทางเศรษฐกิจโลกจะกลับคืนมา
อย่างไรก็ตาม แม้กราฟราคา Bitcoin จะตอบรับในเชิงบวก แต่สถานการณ์จริงยังคงมีความเปราะบางซ่อนอยู่ เนื่องจากทางฝั่งรัสเซีย โดยรัฐมนตรีต่างประเทศ เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ ยังคงแสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อเงื่อนไขบางประการ โดยเฉพาะการปฏิเสธไม่ยอมรับกองกำลังรักษาสันติภาพจากยุโรปให้เข้ามาในพื้นที่ขัดแย้งอย่างเด็ดขาด พร้อมขู่ว่าเป็นเป้าหมายที่ชอบธรรมในการโจมตี ซึ่งประเด็นความขัดแย้งในรายละเอียดที่เหลืออีก 10 เปอร์เซ็นต์นี้ ยังคงเป็นความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะอาจส่งผลให้ราคา Bitcoin เกิดความผันผวนได้ทุกเมื่อหากการเจรจาเกิดสะดุดลงกลางคัน
ที่มา: nytimes

