เทคโนโลยี Blockchain เป็นเทคโนโลยีที่เรารู้กันดีว่าสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับหลายอุตสาหกรรม แต่ที่เรามักจะเห็นชัดจนเป็นที่รู้จักกับมันคงหนีไม่เป็นเรื่องของอุตสาหกรรมทางการเงิน ซึ่งแน่นอนว่าการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้เกิดขึ้นแล้วทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
เรื่องของเทคโนโลยี Blockchain กับเรื่องพลังงานนั้น ถือได้ว่ากำลังเป็นเรื่องที่หลาย ๆ องค์กรหรือหลายบริษัทกำลังให้ความสนใจในตัวมันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นบริษัทด้านพลังงาน กลุ่มนักลงทุนและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
การซื้อขายพลังงานไฟฟ้าผ่านระบบ Blockchain เป็นอะไรที่น่าสนใจอย่างมาก โดยบริษัทที่ชื่อว่า PowerLedger หรือบริษัท Startup ในออสเตรเลียที่ทำธุรกิจด้านการพัฒนาเทคโนโลยีการแลกเปลี่ยนและซื้อขายพลังงานไฟฟ้าในระบบ Blockchain
โดยก่อนหน้านี้ PowerLedger สามารถระดมทุนผ่าน ICO ได้ 34 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยเงินทุนดังกล่าวถูกนำไปใช้เพื่อพัฒนาระบบตลาดซื้อขายพลังงานแบบ Peer to Peer (P2P) บนเทคโนโลยี Blockchain ที่เจ้าของแผ่นพลังงานโซลาร์สามารถที่จะเก็บไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์มาได้อย่างฟรี ๆ แล้วนำมาขายทอดตลาด
แลกเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้า
ในปัจจุบันก็มีแต่โรงไฟฟ้าเท่านั้นที่สามารถขายไฟฟ้าให้กับประชาชนได้ และทางผู้ผลิตสามารถกำหนดราคาได้เช่นกัน
แต่ถ้าทุกคนในโลกที่ได้ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์และนำไฟฟ้าที่ตัวเองผลิตได้นั้น นำมาซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนผ่านระบบ P2P และทำสัญญาบนระบบ Smart Contract ก็จะสามารถทำรายได้ให้กับตัวเอง
ส่วนข้อดีของการนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้คือช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนซื้อขายพลังงานไฟฟ้าผ่านเครือข่ายแบบเพียร์ทูเพียร์ (Peer-to-Peer) จะช่วยในเรื่องของความปลอดภัย รวดเร็ว โปร่งใส และปราศจากข้อผิดพลาดในการทำธุรกรรมโดยไม่ต้องมีคนกลาง ด้วยราคาที่ถูกลงและช่วยลดมลภาวะด้วยการใช้พลังงานสะอาด ตามแนวคิด Low Cost, Low Carbon นั่นเอง
อสังหาริมทรัพย์
ต้นทุนเรื่องไฟฟ้าเป็นอะไรที่สูงมาก และถ้าเป็นห้างสรรพสินค้าด้วยแล้วละก็ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน
บริษัทด้านการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในประเทศออสเตรเลียจึงได้ทดลองใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการบริหารการใช้ไฟฟ้าเช่นการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้หรือจะใช้พลังงานไฟฟ้าที่มีอยู่แล้วแบบ Real Time นั่นเอง
โดยผู้บริหารของบริษัทด้านการลงทุนนี้ได้ให้เหตุผลที่ทดลองโปรเจกต์นี้โดยเขากล่าวว่า “โซลูชั่นนี้จะสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าและสามารถรักษาสิ่งแวดล้อมได้”
ในไทยมีแล้วหรือยัง?
จริง ๆ แล้วทาง Power Ledger ได้ทำการเซ็นสัญญากับ BCPG เพื่อมาเปิดตลาดซื้อขายพลังงานหมุนเวียนได้ในประเทศไทยเมื่อปลายปี 2017 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยในรายละเอียดข่าวนั้นได้ระบุว่า:
“โดยในการใช้ระบบซื้อขายพลังงานของ Power Ledger นั้น ผู้จัดการอาคารและตึกต่าง ๆ จะสามารถซื้อขายพลังงานจากแผ่นพลังงานแสงอาทิตย์ที่จะติดตั้งลงไปในตึกต่าง ๆ และจะมีการ settle ด้านการระบบการเงินแบบอัตโนมัติมาช่วยอีกด้วย”
และเมื่อทางรัฐบาลได้สนับแนวคิดนี้ก็จะทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถซื้อขายพลังงานแบบ C2C หรือคนทั่วไปกันได้เลย
และล่าสุดแสนสิริหรือผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ ได้ประกาศเปิดโครงการนำร่องแลกเปลี่ยนไฟฟ้าเช่นกันโดยได้ทำการจับมือกับบริษัทบีซีพีจี จำกัด (มหาชน) และใช้เทคโนโลยีจาก PowerLedger โดยมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับให้ผู้ใช้งานสามารถแลกเปลี่ยนซื้อขายพลังงานไฟฟ้าด้วยกันได้เช่นกัน
สรุป
อนาคตของการซื้อพลังงานไฟฟ้า ถือว่าเป็นอะไรที่ใกล้ตัวแล้วเพราะว่าในประเทศไทยนั้นหลายหน่วยงานและหลายองค์กรก็เริ่มให้ความสนใจ และประชาชนก็จะสามารถได้รับประโยชน์จากสิ่งนี้ ที่สำคัญก็ถือว่าเป็นการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น