คุณ Reggie Browne กรรมการผู้จัดการอาวุโสของ ETH group ประจำอยู่ที่ Cantor Fitzgerald ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับ bitcoin ETF เท่าใดนัก ทั้ง ๆ ที่เขาได้ทำหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อให้ผู้ออกกฎหมายของสหรัฐอเมริกาพอใจ แต่คุณ Browne หรือ “เจ้าพ่อของ ETF” กล่าวกับ Forbes เนื่องจากเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางตลาดกว่า 4.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ว่า “มันไม่ได้จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้หรอก”
คุณ Browne กล่าวว่ามันมีโอกาสน้อยมากที่จะร่างกรอบการกำกับดูแลเกี่ยวกับการนำคริปโตเคอร์เรนซี bitcoin ETF ไปใช้งานท่ามกลางการไร้ความสามารถของผู้ออกกฎหมายเพราะผู้ร่างกฎหมายยังไม่เข้าใจอีกทั้งมันยังไม่มีข้อมูลใด ๆ เผยออกมาให้เห็นรวมถึงตลาดมันก็ยังไม่ได้เกิดขึ้น คุณ Browne กล่าวในงานประชุมคุณภาพทางการตลาดที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ กรุงวอชิงตันดีซีในสัปดาห์นี้ซึ่งประธาน ก.ล.ต. คุณ Jay Clayton ก็ได้เข้าร่วมประชุมดังกล่าวด้วย คำกล่าวทั้งหมดของคุณ Browne สามารถดูได้ที่ Business Insider
Crypto หนีเสือปะจรเข้
ปัจจุบัน สถานการณ์หนีเสือปะจรเข้นั้นมีให้เห็นในตลาดคริปโตน้อยมาก เพราะการเข้ามาของ bitcoin ETF เป็นสัญญานของการเติบโตขึ้นของตลาดใหม่ ในขณะที่ Bitcoin นั้นก็เพิ่งฉลองครบรอบ 10 ปีไป ในขณะเดียวกันการยอมรับเหรียญดังกล่าวก็ขึ้นอยู่กับกฎหมายที่กำลังรอให้ตลาดเติบโตมากขึ้นกว่านี้ก่อน อย่างไรก็ตามชุมชนของผู้ใช้งานคริปโตก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยกับผลิตภัณฑ์ที่จะปล่อยออกมาซึ่งเป็นการร่วมมือกันคิดค้นระหว่างบริษัทจัดการทรัพย์สิน VanEck และบริษัทสตาร์ทอัพ SolidX
ทางผู้จัดการด้านกลยุทธ์ทรัพย์สินดิจิตอลของบริษัท VanEck นาย Gabor Gurbacs ได้กล่าวกับทาง Fox Business ในวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า “เราไม่รู้ว่าตอนนี้เรากำลังเข้าใกล้มันมากแค่ไหน แต่ที่รู้ตอนนี้คือเราเข้าใกล้มันมากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้แล้ว มันค่อนข้างชัดเจนว่าอเมริกาต้องการ bitcoin ETF และตอนนี้เราก็กำลังสร้างมันขึ้นมา” ในตอนนี้ทางบริษัท VanEck ก็ยังคงรอการตอบรับจาก ก.ล.ต. เกี่ยวกับการนำ bitcoin ETF ไปใช้งาน
การรอคอย
ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้บริหารของ Wall Street ที่กำลังพิจารณาชะตากรรมของ bitcoin ETF โดยไม่กี่วันที่ผ่านมาคุณ Larry Fink ซึ่งเป็นผู้จัดการของ BlackRock บริษัทจัดการสินทรัพย์รายใหญ่สุดของโลกที่ครอบครองสินทรัพย์ภายใต้การจัดการมูลค่ากว่า 6.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตัดความหวังที่ว่าบริษัทจะออก bitcoin ETF ของตัวเองเร็ว ๆ นี้
BlackRock เป็นหนึ่งในบริษัทจัดการทรัพย์สินที่ถือส่วนแบ่งการตลาดของ ETF กว่า 82% กำลังสังเกตสถานการณ์อยู่ห่าง ๆ จนกว่าจะมีสัญญาณของตลาดคริปโตว่ามันถูกต้องตามกฎหมายซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีการสนับสนุนจากรัฐบาล
ในขณะเดียวถ้า ก.ล.ต. จะไม่ยอมรับ bitcoin ETF เพราะเหตุผลที่ว่าไม่มีข้อมูลและไม่มีตลาด ในฐานะที่เป็นเจ้าพ่อแห่ง ETF คุณ Browne เสนอแนะว่า ก.ล.ต. จะมีเหตุผลน้อยลงที่จะปฏิเสธผลิตภัณฑ์ถ้าหากสถาบันเงินทุนเข้ามาสู่ตลาดคริปโตซึ่งคาดว่าเว็บเทรดคริปโตอย่าง Bakkt จะเข้ามาร่วมมือด้วยภายในปีนี้
ที่มา CCN
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น