การ halving ที่จะมาถึงในเดือนพฤษภาคมนี้คือการลดค่าตอบแทนการขุดของนักขุด Bitcoin กว่า 50 เปอร์เซ็น ดังนั้นแล้วค่ารางวัลจาก 12.5 BTC จะตกไปอยู่ที่ 6.25 BTC ซึ่งจะลดอัตราเงินเฟ้อของ Bitcoin จาก 3.72 เปอร์เซ็นเป็น 1.79 เปอร์เซ็น การ halving แบบนี้จะเกิดขึ้นทุกๆ 4 ปี ตามที่ผู้สร้าง Bitcoin ออกแบบระบบของเหรียญไว้ สิ่งที่น่าสนใจในครั้งนี้คือค่าอัตราเงินเฟ้อในการซัพพลายของ Bitcoin นั้นลดลงไปต่ำกว่า 2.0 เปอร์เซ็นเป็นครั้งแรกซึ่งถือเป็นอัตราเงินเฟ้อในระดับของเงินสกุลปกติที่ธนาคารกลางนำมาใช้กัน
นักลงทุนที่เชื่อว่าราคา Bitcoin จะขึ้นหลังการ halving ส่วนใหญ่จะเชื่อเพราะว่าการ halving ที่ผ่านมาในอดีตล้วนทำให้ราคา Bitcoin สูงขึ้นทั้งนั้น การ halving ครั้งแรกเกิดขึ้นในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2012 ในราคา 12.50 ดอลลาร์ และเมื่อถึงการ halving ครั้งที่ 2 ราคา Bitcoin ในตอนนั้นสูงถึง 650 ดอลลาร์ เหรียญ Bitcoin จะเข้าสูงสภาวะขาขึ้นในระยะยาวหลังจากที่มีการ halving ทุกครั้ง
แต่ในปีนี้นักลงทุนเริ่มแสดงความกังวลเนื่องจากวิกฤตไวรัสโคโรน่าหรือ COVID-19 ที่ระบาดทั่วโลกทำให้ตลาดสกุลเงินดิจิตอลซบเซาอย่างรุนแรง แต่ก็ยังมีความหวังเพราะว่าการ halving ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นหลังจากที่มีสถาบันการเงินทั่วโลกเข้ามาลงทุนในโลกสกุลเงินดิจิตอล ทำให้นักลงทุนคาดการณ์กันว่าการ halving ของปี 2020 จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการ halving นั้นจะส่งผลให้ราคา Bitcoin ขึ้นจริงๆ หรือที่ผ่านมาราคา Bitcoin จะสูงขึ้นหลัง havling อย่างบังเอิญ
ซึ่งในประเด็นนี้นาย Peter Brandt นักลงทุนโด่งดังออกมากล่าวว่าการ halving นั้นจะไม่ได้ส่งผลต่อราคาของ Bitcoin เลย เขาวิเคราะห์ว่านักลงทุนในโลกสกุลเงินดิจิตอลให้ความสำคัญกับการ halving มากเกินไป เขากล่าวในทวิตเตอร์ว่า:
“Bitcoin halving = ถูกให้ความสำคัญมากไป ค่าเทรดวอลุ่มประจำวันต่างหากที่เป็นซัพพลายที่แท้จริงของ Bitcoin”
ส่วนนาย Mike Novogratz ซีอีโอของ Galaxy Digital ออกมากล่าวว่าราคา Bitcoin เป็นเหมือนเกมวัดใจ เขากล่าวว่า:
“Bitcoin มันเป็นเกมแแห่งการวัดใจตลอดเวลาที่ผ่านมา เหรียญสกุลเงินดิจิตอลทุกเหรียญก็เป็นเช่นนั้น และตอนนี้เหมื่อนความมั่นใจทั่วโลกเพิ่งจะระเหิดหายไปแล้ว แล้วอะไรจะทำให้ความมั่นใจเหล่านั้นกลับมาสู่ Bitcoin ได้”
ซึ่งล่าสุดมีนักลงทุนและนักขุด Bitcoin นาย Kristof ออกมากล่าวในรายการ Podcast ที่ชื่อ The Crypto Lark ว่าเขาเชื่อว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระทบราคา Bitcoin เป็นจำนวนมาก และเขาเชื่อว่าราคา Bitcoin จะพุ่งขึ้นหลังเหตุการณ์ halving แต่มันจะไม่ได้พุ่งไปถึง 20,000 ดอลลาร์ มันจะอยู่ในช่วง 9,000 – 12,000 ดอลลาร์ซึ่งเป็นช่วงที่ “อยู่เหนือต้นทุนการขุดพอดี”
ซึ่งมีการคาดการณ์กันอยู่แล้ว่าราคา Bitcoin หลังการ halving จะส่งผลกระทบต่อกิจการของนักขุดกันเป็นอย่างมาก นักขุดโดยเฉพาะนักขุดรายเล็กอาจจะไม่สามารถทำการขุดที่คุ้มทุนได้อีกต่อไปและจำเป็นต้องขายเครื่องขุดของตนทิ้งไปให้กับนักขุดรายใหญ่ ซึ่งสถานการณ์จะยิ่งแย่ขึ้นไปอีกเพราะค่าตอบแทนของนักขุดจะถูกลดลงครึ่งนึงเพราะ halving ด้วย แต่ถ้าการ halving จะทำให้ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นสูงไปกว่านี้นักขุดรายเล็กอาจจะอยู่รอดได้
รายการ Podcast ของ The Crypto Lark กล่าวต่อว่า:
“ถ้าคุณดูสภาพตลาดในตอนนี้ เมื่อนักเทรดเห็นว่าเหรียญกำลังได้รับการอัดฉีดจากผู้สร้างหรือค่าเงินเฟ้อของมันสูงขึ้น หรือมูลค่าของมันสูงขึ้น นักเทรดก็จะเทรดเหรียญนั้น เพราะพวกคุณรู้ว่าเหรียญนั้นจะมีค่าสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้คุณสามารถขายมันได้”
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น