สถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิท-19 รัฐบาลประเทศต่างๆ ได้ประกาศให้พลเมืองกักตัวเองอยู่บ้าน สถานการณ์ประกอบการบางแห่งถูกสั่งปิด ผู้คนตกงานกันล้นหลาม Fed ของสหรัฐอเมริกาก็ต้องออกมาตรการสูบฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ ซึ่งมันทำให้ชุมชนต่างมองว่าเพราะมาตรการของรัฐอาจมีส่วนผลักดันให้ราคา Bitcoin พุ่งแตะ 1 ล้านดอลลาร์ แล้วมันจะเป็นเช่นนี้จริงหรือไม่?
ราคา Bitcoin พุ่งแตะ 1 ล้านดอลลาร์ในปี 2025
นักลงทุนมาโครระดับโลกได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับอนาคตของตลาดทั่วโลกเอาไว้ว่า
“ทองคำอาจราคาขึ้น 3x ถึง 5x ในอีก 3-5 ปี ส่วน Bitcoin อาจพุ่งสูงถึง 1 ล้านดอลลาร์ในระยะเวลาเดียวกัน”
มูลค่าตลาด Bitcoin เพิ่มจาก 200 พันล้านดอลลาร์มาสู่ 10 ล้านล้านดอลลาร์ ทองคำโตขึ้นจาก 15 ล้านล้านดอลลาร์มาสู่ 60 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน ส่วนซัพพลายของเหรียญ Bitcoin ตอนนี้มีมากกว่า 18 ล้าน
มหาเศรษฐีเชื่อมีความเป็นไปได้
Social Capital CEO และอดีตผู้บริหาร Facebook คุณ Chamath Palihapitiya เล็งเห็นศักยภาพของ Bitcoin ว่ามันอาจพุ่งไปแตะตัวเลขเจ็ดหลัก ตามรายงานเมื่อต้นเดือนเมษายนโดย Forbes คุณ Palihapitiya กล่าวกับนายแ Pompliano ของ Morgan Creek Digital มันอาจจะมีมูลค่าร่วงแตะศูนย์หรือพุ่งหลายล้าน
นาย Palihapitiya ให้เหตุผลว่าเศรษฐกิจโลกอาจจะต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่มูลค่าของสกุลเงิน fiat ลดลงอย่างรุนแรงรุนแรงซึ่งในกรณีนี้
อดีตผู้บริหาร Facebook ได้ชี้ว่า:
“มีโอกาสประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์ที่ราคา Bitcoin จะพุ่งขึ้นเช่นนั้น อีกทั้งภายในปี 2030 มันมีโอกาสที่เราจะยังแก้ปัญหาเงินเฟ้อไม่ได้ จะแก้ปัญหาได้ก็ต้องยึดมาตรฐานของทองคำ ซึ่งมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่รัฐบาลและธนาคารกลางจะทำเช่นนั้น พวกเขาไม่มีทางเห็นด้วยกับเครื่องมือต่างๆ และไม่มีทางเห็นด้วยกับอัตราแลกเปลี่ยน เพราะฉะนั้นผู้คนสามารถตัดสินใจได้ว่าพวกเขาจะทำอย่างไรกับ Bitcoin”
โครงสร้างพื้นฐานของ Bitcoin เป็นอย่างไร
หากดูจากโมเดล S2F แล้วจะเห็นว่า Bitcoin เริ่มหายากพอๆ กับทองคำเมื่อการ Halving ใกล้จะมาถึงในอีกสองสัปดาห์ต่อจากนี้
โมเดล S2F นั้นเป็นสิ่งที่เอาไว้ใช้วัดความหายากของ Bitcoinโดยเทียบจากซัพพลายและการออกเหรียญใหม่ เช่น หากวัดจากโมเดล S2F เงินจะมีเรติโออยู่ที่ 22
ผู้ที่คิดค้นโมเดล S2F มาใช้กับ Bitcoin คือ PlanB เพื่อหามูลค่าของ Bitcoin ในระยะยาวและตอนนี้มันมีเรติโออยู่ที่ 27 ส่วนทองคำมีเรติโออยู่ที่ 62
ตัวเลขเหล่านี้หมายความอะไร ยกตัวอย่างเช่นทองคำที่มีเรติโออยู่ที่ 62 ซึ่งหมายความว่ามันจะใช้เวลาประมาณ 62 ปีในการเพิ่มซัพพลายทองคำเป็นสองเท่าซึ่งยิ่งทำให้ทองคำหายากขึ้นไปใหญ่ ซึ่งการใช้โมเดลนี้สามารถนำมาทำนายราคาในอนาคตได้
หลังการ Halving เรติโอของ Bitcoin นั้นจะเพิ่มมาสองเท่าอยู่ที่ประมาณ 52 ใกล้เคียงกับทองคำเลยทีเดียว ซึ่งราคา Bitcoin อาจจะพุ่งไปแตะ $55,000
ทองคำและ Bitcoin มีมูลค่าใกล้เคียงกับสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงในทางทฤษฎีแล้วสินทรัพย์ทั้งสองอาจมีราคาตลาดที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้นหากมูลค่าการตลาดของ Bitcoin ทะยานสู่ระดับใกล้เคียงกับทองคำมันจะมีมูลค่ามากกว่าครึ่งล้านดอลลาร์ประมาณ $800,000
ด้านของนักวิเคราะห์ Philip Swift ก็ได้ชี้ว่าราคา Bitcoin ใกล้แตะ $100,000 แล้วหากดูจากโมเดล stock-to-flow
อย่างไรก็ตามโมเดล S2F ใหม่ก็ได้ชี้ว่าราคา Bitcoin อาจพุ่งไปที่ $288,000 จากปี 2020 จนกว่าจะถึงการ halving ครั้งที่สี่
ราคา Bitcoin นั้นจะพุ่งแตะ 1 ล้านดอลลาร์?
ความต้องการ Bitcoin จากอุปทานในปัจจุบันมีราคาต่ำกว่า $ 8,000 การเติบโตของอุปทานจะลดลงครึ่งหนึ่งหลังจากกลางเดือนพฤษภาคม แต่ปริมาณการผลิตทั้งหมดจะเติบโตต่อ ดังนั้นก็คือจะต้องมองว่ามันมีดีมานด์มากขึ้นแค่ไหน
จากการวิจัยของ Grayscale ในปี 2019 พบว่าประมาณ 36% ของนักลงทุนชาวอเมริกันให้ความสนใจกับการลงทุน Bitcoin เกือบทั้งหมดโดยพวกเขามองว่า “ ศักยภาพในการเติบโต” ของ Bitcoin เป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาสนใจในการลงทุน รวมถึงจำนวนของ Bitcoin ที่ลดลงด้วย
รายงานประจำไตรมาสพบว่านักลงทุนสถาบันมีความสนใจใน Bitcoin ตัว Bitcoin เพิ่มขึ้น รายงานประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2020 แสดงให้เห็นถึงระดับดีมานด์ขากขึ้นโดยมีเงินทุนไหลเข้ากองทุนมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์
เงินกว่า 79% มาจากกองทุนป้องกันความเสี่ยงและนักลงทุนสถาบันอื่น ๆ เงินทุนส่วนใหญ่ประมาณ $ 400 ล้านเข้าไปในกองทุน Bitcoin Trust ของบริษัท ส่วนที่เหลืออีก $100 ล้านถูกเทลงในผลิตภัณฑ์ Ethereum Trust ของ Grayscale
กราฟด้านล่างแสดงการเจริญเติบโตของของ Bitcoin ตั้งแต่ต้นไตรมาสที่ 2 ไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ของปี 2019
ด้านผู้จัดการสินทรัพย์ก็หยุดรับเงินเข้าใหม่เป็นระยะเวลาหนึ่งเพราะกองทุนถูกจองซื้อมากเกินไป ดังนั้นในช่วงเวลานี้เราอาจจะไม่สามารถเห็นดีมานด์จริงๆ ได้
ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมามีเงินไหลเข้าBitcoin ผ่าน Grayscale เพิ่มขึ้นทุกสองเท่าจากประมาณ $ 100 ล้านในไตรมาสที่ 2 ปี 2019, $ 200 ล้านในไตรมาสที่สามปี 2019, $ 400 ล้านในไตรมาสที่ 4 ปี 2019 เป็น 800 ล้านเหรียญภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2020 ดีมานด์ Bitcoin เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
ตัวเลขของ Grayscale แสดงให้เห็นถึงมีดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากกลุ่มนักลงทุนสถาบัน ตามที่ infographics จาก Visual Capitalist เผยว่าหากเงินทุนจากตราสารอนุพันธ์ทั่วโลกมีมูลค่าระหว่าง 630 ล้านล้านดอลลาร์ถึง 1.2 พันล้านล้านดอลลาร์ถูกนำเข้ามาลงทุนกับ Bitcoin เพียงเศษเสี้ยวเดียว ราคา Bitcoin จะเพิ่มขึ้นสูงมาก
สมมติว่าจะเป็นสี่ปีต่อจากนี้จะมีเหรียญหมุนเวียนอยู่ประมาณ 19,687,500 และโมเดล S2F ของมันจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวโดยเพิ่มขึ้นมากกว่าทองคำ ราคา Bitcoin พุ่งแตะ $ ช1 ล้านอาจดูไกลจากความเป็นจริงมากในตอนนี้ และเราจะเห็น Bitcoin $1 ล้านภายในปี 2025 หรือไม่ก็ไม่มีใครรู้จริงๆ
ที่มา : cryptobriefing
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น