<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ข้อมูลจากตลาด Bitcoin Options เผยว่านักลงทุนส่วนใหญ่กำลังรอคอยให้ราคา BTC แตะ $50,000 ในปี 2021

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

 ในช่วงเวลา 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการส่งคำสั่ง call บนตลาด Bitcoin Options ด้วยมูลค่า 150,000 ดอลลาร์ ที่ระดับราคา 50,000 ดอลลาร์ในเดือนมิถุนายนและธันวาคมปี 2021 บนตลาด LedgerX คำถามที่ตามมาก็คือทำไมถึงมีการตั้ง Order ที่ระดับราคาดังกล่าว อะไรคือจุดประสงค์หลักของพวกเขา

ความพยายามในการเทรดบนตลาด option ในระดับราคาที่สูงกว่านั้นมีโอกาสเป็นไปได้ที่ค่อนข้างน้อย แต่การจ่ายเงิน 1,000 ดอลลาร์เพื่อซื้อ bitcoin ที่ราคา 440 เปอร์เซ็นต์สูงกว่าระดับราคาตลาดในปัจจุบันในอีก 18 เดือนนั้นดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไรนัก

โดยเฉพาะหากพิจารณา Volume ต่อปีทั้งหมดแล้วนำมาวิเคราะห์จะพบว่าโอกาสที่ราคาจะพุ่งไปถึงระดับ  50,000 ดอลลาร์ดูเหมือนว่าจะต่ำกว่า 8% เสียอีก

ผู้ขายเป็นผู้แบกรับความเสี่ยง

ผู้ขายสัญญา call option ดูเหมือนว่าจะมีข้อเสียเปรียบแบตไม่มีที่สิ้นสุดถ้าหากว่าราคา bitcoin สามารถพุ่งทะลุ 51,000 ดอลลาร์ไปได้ และในกรณีนี้ดูเหมือนว่าเขาจะต้องจ่ายเงินจำนวน 1,000 ดอลลาร์ล่วงหน้า

ยกตัวอย่างก็คือสัญญา call option ของช่วงเดือนธันวาคมปี 2021 ที่มี strike ราคาที่ 25,000 ดอลลาร์กำลังถูกซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 1,750 ดอลลาร์ โดยผู้ที่ซื้อไปก็จะได้กำไรประมาณ 13,250 ดอลลาร์ถ้าหากว่าราคา bitcoin พุ่งถึง 40,000 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นอัตราผลตอบแทนที่มากถึง 650 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

ในอีกแง่หนึ่งผู้ที่ซื้อ strike ที่ราคา 50,000 ดอลลาร์ก็จะไม่ได้รับอะไรเลยหากราคาวิ่งไปถึงแค่ 40,000 ดอลลาร์

โอกาสเป็นไปได้ของการเทรดที่ระดับราคาดังกล่าว

เมื่อไม่นานมานี้สื่อด้านคริปโตส่วนใหญ่และบนทวิตเตอร์ได้โฟกัสไปที่ตลาด Option และ future  แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลยถ้าหากนักลงทุนรายย่อยเข้ามาซื้อสัญญา option ที่มีราคาแพงโดยเฉพาะตัวที่พวกเขามองว่าจะมีโอกาสกลายเป็นขาขึ้น

เราไม่มีวันรู้จักกับดวงของพวกเขาได้เลยว่าการตั้ง Auto ในลักษณะดังกล่าวต้องการจะสื่ออะไร หรือเป็นเพียงแค่กลยุทธ์กลยุทธ์หนึ่งให้คนเชื่อว่าตลาดจะกลายเป็นขาขึ้นในอนาคต

ในลักษณะดังกล่าวนี้นักลงทุนจะต้องเป็นผู้ซื้อ call option ราคาแพงถึง 25,000 ดอลลาร์ ในขณะที่จะต้องขายตัวที่ราคา 50,000 ดอลลาร์ออกไป ซึ่งในลักษณะนี้ดูสมเหตุสมผลกว่า เนื่องจากว่ามันสามารถลดค่าใช้จ่ายจาก 1,750 ดอลลาร์เหลือแค่ 750 ดอลลาร์เท่านั้น รวมถึงโอกาสได้ทำกำไรในช่วงตลาดขาขึ้นอีกด้วย

กราฟด้านบนเผยให้เห็นถึงอัตราในการทำกำไรผักตลาดกลายเป็นขาขึ้น แม้ว่ามันจะดูค่อนข้างเป็นการมองโลกในแง่ดีเกินไป แต่ระดับดังกล่าวให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างโอเคเมื่อระดับราคาพุ่งขึ้นไปสูงถึง 25,750 ดอลลาร์