จากการที่ราคา Bitcoin พุ่งทะยานสู่ $40,000 หรือกว่า 1.2 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดตลอดกาล (All-Time-High) เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันราคาของมันพุ่งไปแล้วกว่า 370% นับจากปีที่แล้ว ส่งผลให้นักลงทุนมากมายทั้งรายเล็กและรายใหญ่ต่างกระโดดเข้ามายังตลาดคริปโตแห่งนี้
โดยทาง Siam Blockchian ได้มีโอกาสสัมภาษณ์สดกับผู้เชี่ยวชาญและเป็นอาจารย์สอนด้าน Bitcoin ชื่อดัง แห่ง Chaloke.com (CDC) ซึ่งมีประสบการณ์สอนกว่า 6 ปี
หากเอ่ยนามไปแล้วใครหลายคนต้องรู้จักและเป็นแฟนคลับอย่างแน่นอน นั่นก็คือ “อาจารย์พิริยะ สัมพันธารักษ์”
ราคา Bitcoin ระดับ $40,000 ที่ใครหลายคนคาดไม่ถึง
จากการพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin เมื่อคืนที่ผ่านมาแตะจุดสูงสุดใหม่ที่ $40,000 ทำให้อาจารย์พิริยะมองว่าเป็นระดับราคาที่สูงพอสมควร
“ก็…สูงดีครับ คือเราไม่มีทางรู้ได้ว่าราคามันสูงเกินไป มันสูงไม่พอหรือต่ำเกินไป”
ซึ่งราคาก็จะพุ่งไปเรื่อย ๆ ตามเทรนด์ของราคาจนกว่าจะมีสัญญาณที่บ่งบอกชัดถึงการกลับตัว หากถามถึงสัญญาณในการกลับตัวตอนนี้ อาจารย์พิริยะยังไม่เห็นถึงสัญญาณดังกล่าว
“สัญญาณการกลับตัวที่ง่ายที่สุดเลยก็คือ ราคาลงครับ คือถ้าราคาปรับตัวลงแล้วไม่สามารถทะลุจุดสูงสุดเดิมได้ ก็จะเป็นสัญญาณที่ค่อนข้างชัดเจนว่ามีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางของเทรนด์”
“ถ้าจะดูละเอียดลงไปกว่านั้นอีก ผมจะดูโมเมนตัมการเคลื่อนไหวของราคา พูดง่าย ๆ มีความแผ่วกำลังลงบ้างรึยัง ถ้าดูใน TF รายวันระยะกลาง ตอนนี้ยังไม่เห็นความแผ่ว แต่ก็ไม่ได้แปลว่ามันจะไม่ลง” อาจารย์พิริยะกล่าวเสริมถึงเทคนิคการดูราคาส่วนตัว
ราคา Bitcoin จะไปถึงไหนหลังหาเพดานไม่เจอท่ามกลางทฤษฎี S2FX
“มันจะไปถึงไหนเราไม่รู้หรอก ซึ่งในตอนนี้มีทฤษฎีมากมายที่พยายามจะวิเคราะห์ว่าราคาจะไปถึงไหน” อาจารย์พิริยะกล่าวถึงการคาดการณ์ราคา Bitcoin ในปัจจุบัน
อาจารย์พิริยะยังกล่าวเสริมอีกว่าโมเดลราคาที่คนพูดถึงเยอะที่สุดในตอนนี้ก็คือ Stock to Flow Cross Asset Model (S2FX)
“เป็นการเสนอว่าถ้า Bitcoin เปลี่ยนสถานะได้สำเร็จจาก Speculative Asset เป็น Reserve Asset เราจะได้เห็น Bitcoin ขยับเคลื่อนไหวขึ้นลงที่ระดับราคา $100,000 – $200,000 หากไม่สามารถเปลี่ยนสถานะได้อาจกลับมาอยู่ในช่วงราคาเดิมที่ $20,000 – $30,000” อาจารย์พิริยะกล่าว
การปรับฐานราคาที่นักลงทุนต่างรอคอย
“อาจจะไม่เกิดก็ได้” ประโยคแรกก็ถึงกับเซอร์ไพรส์ใครหลาย ๆ คน
อาจารย์พิริยะเล่าถึงประสบการณ์ที่เปิด Short Position ไว้ว่าตนเองเคยคาดการณ์ว่าราคาน่าจะมาถึงจุดอิ่มตัวและก็น่าจะมีการปรับฐานใหญ่อยู่ที่ช่วงประมาณ $23,000 ซึ่งพอคาดการณ์ดังกล่าวนั้นไม่ถูกต้อง อาจารย์ก็ต้องปิด Position ยอมขาดทุนไป
“พอนั่งดูจริง ๆ แล้วเนี่ยมีความเป็นไปได้สูงที่มันเพิ่งจะเริ่มต้น” อาจารย์พิริยะอ้างอิงจาก Elliott Wave Analysis ซึ่งใน Wave ที่ 3 จะเป็นช่วงที่ตลาดเข้าสู่ Public Participation คือเป็นตลาดในช่วงที่มีคนแห่เข้ามาเยอะที่สุด หรือช่วง “เรียกเม่า” นั่นเอง
“ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่น่าสนใจมากในทุกตลาดเพราะจะเป็นช่วงที่มีความ Bullish ค่อนข้างสูง จนทำให้การย่อหรือการปรับฐานเกิดขึ้นเล็กมาก”
อาจารย์พิริยะยังได้แนะนำอีกว่าสำหรับผู้ที่ตกรถแล้ว ตอนนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีในการซื้อ แต่ถ้ากลัวจะตกรถไปมากกว่านี้แนะนำให้ใช้เงินเย็นที่เสียได้ทะยอย DCA
“ซึ่งเราต้องยอมรับว่าตอนที่มันเป็นจังหวะซื้อจริง ๆ คือคุณพลาด ดังนั้นเมื่อคุณพลาดแล้วต้องยอมเทรดในแบบคนที่พลาด”
กระแสราคา Bitcoin โด่งดังไปทั่วโลก
อาจารย์พิริยะเล่าว่าสถานการณ์ในไทยตอนนี้ถือว่าตื่นตัวกว่าในหลายประเทศทั่วโลก แต่ Market Cap ของเรานั้นเป็นเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นของตลาดโลก
“กำลังซื้อของทุกคนมันมีผลต่อราคาครับ แต่มันมีผลมากน้อยขึ้นอยู่กับสัดส่วนตามกำลังซื้อ ซึ่งของเราเป็นเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นของตลาดโลก จึงอาจส่งผลน้อยมากต่อราคา Bitcoin โดยรวม”
หากเรามองไปถึงตลาดโลกในวันนี้ มีรายย่อยเข้ามาสนใจกันมากขึ้น แน่นอนว่าส่งผลต่อราคา Bitcoin แต่อาจจะยังไม่มากนักเนื่องจากปัจจัยหลักเป็นผลมาจากกำลังซื้อของ Corporate Investor
“ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนบริษัท ซึ่งตรงนี้เนี่ยสัดส่วนเขาใหญ่กว่าเยอะ แล้วรายย่อยก็เริ่มเข้ามาทำให้เกิดความผันผวนในแต่ละช่วง”
อาจารย์พิริยะมองถึงสถานการณ์การเข้ามาลงทุนของรายเล็กและรายใหญ่ รวมไปถึงการส่งผลให้ราคาของ Altcoin มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเม็ดเงินของรายย่อยอีกด้วย
ปี 2021 เป็นปีทองของ Bitcoin หรือไม่
“ผมไม่ค่อยมองปีนี้เท่าไหร่ ผมรู้สึกว่าปี 2022 เป็นปีที่น่าสนใจ” อาจารย์พิริยะกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย
อาจารย์พิริยะได้อธิบายเพิ่มเติมว่า “ผม expect ว่าอาจจะเกิดการพุ่งขึ้นเรียกว่าเหมือน 2 ก็อก คือ พุ่งมารอบนึงแล้วจะมีการเบรค Sideway รอบนึงก่อน ก่อนที่จะขึ้นอย่างแท้จริงอีกรอบหนึ่ง เพราะฉะนั้นเป้าหมายที่จะพูดถึงเนี่ยที่มันจะขึ้นไปถึง $100,000 – $200,000 ผมมองอยู่ที่ประมาณปี 2022”
ส่วนในปีนี้อาจจะยังขึ้นไม่สุดซึ่งอาจารย์มองว่าเรื่องของ Timing ยังไม่ใช่ช่วงเวลาของมัน รวมไปถึงประเด็นในการเข้ามาซื้อขององค์กรทั้งหลายซึ่งยังคงต้องใช้เวลาในเรื่องของการทำบัญชี ดังนั้นเราจะเห็นการไล่ทะยอยซื้อในช่วงนี้
“ผมคิดว่าน่าจะสนุกกันจริง ๆ ในปี 2022 ไม่แน่นะถ้ามันตื่นเต้นมาก ๆ มันอาจจะออกมาในปีนี้เลยก็ได้” อาจารย์พิริยะกล่าวทิ้งท้าย
ฝากถึงนักลงทุนมือเก่าและมือใหม่ในช่วงนี้
“ในทุกตลาดการลงทุนจะมีสถิติอยู่อันนึงที่ทุกคนก็จะรู้กันก็คือ “คนส่วนใหญ่” ขาดทุน ซึ่งทุกคนที่เข้ามาในตลาดจะคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนส่วนใหญ่เหล่านั้น”
อาจารย์พิริยะกล่าวต่ออีกว่า “เป็นไปไม่ได้เลยที่คนส่วนใหญ่ที่เพิ่งเข้าตลาดการลงทุนมาแล้วจะมาเป็นกลุ่มคน 1 ใน 10% ที่ได้กำไรจากตลาด มันยากมากเลย”
ซึ่งอาจารย์ยังได้เตือนไปถึงความหลงระเริงไปกับตลาดในช่วงนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการลงทุนหรือในการเทรดก็คือ “การป้องกันความเสี่ยง”
“นิยามง่าย ๆ เลย ทุกครั้งที่กดซื้อเข้าไป รู้รึยังว่าถ้าการลงทุนครั้งนี้พลาด ไม่เป็นไปตามที่คาด เราจะเสียเงินเท่าไหร่ ถ้ายังตอบไม่ได้แปลว่าคุณยังไม่รู้ว่าคุณมีความเสี่ยงเท่าไหร่”
และนั่นก็เป็นบทสัมภาษณ์สุดพิเศษกับ “อาจารย์พิริยะ สัมพันธารักษ์” ผู้คร่ำหวอดในตลาด Bitcoin มาอย่างยาวนาน
ซึ่งท่ามกลางขาขึ้นอย่างรุนแรงของราคา Bitcoin ในช่วงนี้จะเป็นอย่างไรต่อ เพดานด้านบนที่ไม่มีอะไรมากั้นจะสามารถทำให้เกิด All-Time-High ได้ทุกวันหรือไม่ นักลงทุนทุกท่านควรลงทุนด้วยความระมัดระวังและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด