 ไปแล้ว){kind=link}
ราคาของเหรียญขวัญใจชาวไทยตลอดกาลอย่าง XRP นั้นดูเหมือนว่าจะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงมากในช่วงไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี้ โดยได้ทะลุ 1.22 ดอลลาร์ไปแล้ว และดูเหมือนว่าจะแซงหน้าของเหรียญขวัญใจชาวไทยอีกเหรียญหนึ่งอย่าง Cardano (ADA) ด้วยเช่นกัน
กราฟ XRPUSD เผยให้เห็นว่าราคาของเหรียญ XRP นั้นได้พุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันนี้ที่ 1.2339 ดอลลาร์อย่างรุนแรง จากจุดต่ำสุดในรอบวันนี้ที่ 1.0065 ดอลลาร์
การพุ่งขึ้นของเหรียญ XRP นี้ดูเหมือนว่าจะแซงหน้าของราคาเหรียญ ADA ไปแล้วอีกด้วย โดยปัจจุบันนี้ราคาของเหรียญ ADA อยู่ที่ 1.215 เท่านั้น
ซึ่งบ่งบอกว่าเหรียญ XRP นั้นมีค่ามากกว่า ADA แล้ว และผู้คนก็กำลังต้องการ XRP มากกว่า ADA นั่นเอง
ปัจจุบันเหรียญ XRP นั้นอยู่ที่อันดับ 4 ของโลก ในขณะที่ ADA นั้นอยู่ที่อันดับ 6 ของโลก หากอ้างอิงจากมูลค่าตลาด โดยของ XRP นั้นอยู่ที่ 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนของ ADA อยู่ที่ 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์
ในวันนี้ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไปแล้วว่าศาลสหรัฐฯ สั่งให้ SEC หยุดการแสวงหาบันทึกทางการเงินส่วนตัวของผู้บริหาร Ripple
โดยอ้างอิงจากทวิตเตอร์ของนาย James K. Filan หรือทนายความด้านกฎหมายการเงินนั้น เขาได้ออกมาเผยแพร่เอกสารคำสั่งของศาลครั้งล่าสุด โดยมีใจความสรุปว่า
“SEC v. Ripple และชุมชน XRP ตอนนี้ศาลปฏเสธคำร้องของทาง SEC สำหรับการเรียกร้องให้จำเลยมีการเปิดเผยบันทึกทางการเงินส่วนตัว ที่นอกเหนือจากการทำธุรกรรมเกี่ยวกับ XRP ที่มีการสัญญากันแล้ว และไม่มีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ดังนั้นความต้องการในการปฏิเสธในส่วนนี้ของจำเลยจึงได้รับอนุญาต และ SEC นั้นจะต้องเพิกถอนคำขอในการให้จำเลยเปิดเผยบันทึกทางการเงินส่วนตัว และเพิกถอนการเบิกตัวบุคคลที่ 3 อีกด้วย หากมีการไต่สวนไปเรื่อย ๆ และทาง SEC สามารถที่จะค้นพบหลักฐานที่จำเลยตัวบุคคลไม่ได้เตรียมการธุรกรรมเกี่ยวกับ XRP ของพวกเขา ถึงตอนนั้น SEC จะสามารถยื่นหลักฐานให้กับศาลใหม่ได้ และเริ่มยื่นขอใหม่ ตามคำสั่งของศาล (ลงนามโดยผู้พิพากษาผู้พิพากษา Sarah Netburn)”
เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นอาจกล่าวได้ว่าถือเป็นเรื่องที่ดีต่อตัวผู้บริหารของ Ripple อย่างนาย Brad และนาย Chris เนื่องจากว่าพวกเขาจะได้ไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลธุรกรรมส่วนตัวใด ๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ XRP นั่นเอง
อย่างไรก็ตามราคาของเหรียญดังกล่าวนั้นดูเหมือนว่าจะยังห่างไกลจากจุดสูงสุดในประวัติการณ์ที่ 3.3 ดอลลาร์ที่เคยทำไว้เมื่อปี 2018 อยู่พอสมควร ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไป