mining pool ของ Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดส่งสัญญาณสำหรับตัวอัปเกรด Taproot แล้ว แต่อาจไม่ถึง 90% ของฉันทามติในช่วง difficulty ของ epoch ในปัจจุบันนี้
mining pool ของ Bitcoin (BTC) 10 อันดับแรกตามอัตรา hash rate ส่งสัญญาณสำหรับการเปิดใช้งานตัวอัปเดต Taproot แล้ว โดย TOP เป็นกลุ่มล่าสุดที่ส่งสัญญาณ ณ ขณะที่เขียน
ความจริงแล้วจำเป็นต้องมี 90% ของอัตราแฮชของ Bitcoin ที่ส่งสัญญาณสำหรับการอัปเกรดโปรโตคอล โดยขณะนี้ตัวเลขตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 73%
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Binance แพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตยักษ์ใหญ่ประกาศว่า Binance Pool ได้เริ่มส่งสัญญาณสำหรับ Taproot แล้ว นอกจากนี้ Twitter ของ Taproot Signal เผยว่า สัญญาณ Taproot ของ Binance Pool เกิดขึ้นที่ block ที่ 683,878
จากรายงานของ Cointelegraph ก่อนหน้านี้เผยว่า pool การขุด Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดสองแห่ง ได้แก่ AntPool และ F2Pool เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนการอัปเกรดโปรโตคอลครั้งแรกใน SlushPool ซึ่งเป็น pool ที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 12 ตามอัตราแฮช โดยเป็นกลุ่มแรกที่ขุดบล็อกธุรกรรมแรกด้วยสัญญาณ Taproot
BTC.TOP ซึ่งเป็น pool สุดท้ายของ 10 อันดับแรกที่ส่งสัญญาณ Taproot ได้ดำเนินการด้วย block height 683,945 ซึ่งทาง pool ได้ประกาศก่อนหน้านี้ว่าได้เสร็จสิ้นการทดสอบโปรโตคอลที่จำเป็นในการเริ่มต้น รวมถึงสัญญาณการเปิดใช้งาน Taproot ในบล็อกธุรกรรมที่ขุดได้
ข้อมูลจาก Taproot.watch ซึ่งเป็นเว็บที่สร้างขึ้นโดยนักพัฒนา Bitcoin อย่าง Hampus Sjöberg แสดงให้เห็นว่า มีอย่างน้อย 10 บล็อกที่พร้อมส่งสัญญาณ Taproot ในช่วง difficulty epoch ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามมีบล็อกที่ไม่ส่งสัญญาณถึง 190 บล็อกสำหรับการเปิดอัปเกรด Taproot ซึ่งถูกล็อคในระหว่าง difficulty window ในปัจจุบันนี้ โดยการอัปเกรดโปรโตคอลจะดำเนินไปข้างหน้าได้ก็ต่อเมื่อมี 90% จากบล็อกที่ขุดได้ 2,016 บล็อกส่งสัญญาณการเปิดใช้งาน
190 บล็อกที่ไม่ส่งสัญญาณมีมากกว่า 9% โดยบล็อกที่ไม่มีการส่งสัญญาณข้อกำหนดของ Taproot จะถูกผลักไปสู่การปรับ difficulty ครั้งต่อไปในเวลาประมาณ 11 วัน
ต้องมีการล็อกการเปิดใช้งาน Taproot ก่อนวันที่ 11 สิงหาคม เพื่อให้การอัปเกรดเครือข่ายเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน หากเป็นเช่นนั้นจะเป็นการปรับปรุงระดับโปรโตคอลที่โดดเด่นที่สุดในช่วงสี่ปีที่ผ่านมาสำหรับสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดตามมูลค่าตลาด (market capitalization)
การอัปเกรด Taproot จะช่วยในการปกปิดเงื่อนไขการใช้จ่ายที่กำหนดโดยบุคคลที่ทำธุรกรรม ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อความเป็นส่วนตัวและความสามารถในการทำสัญญาอัจฉริยะ ( smart contract) ของโปรโตคอล Bitcoin
ที่มา: CoinTelegraph