ในคลิปวิดีโอตอนล่าสุดของทางช่อง Kim Property Live ที่มียอดผู้ติดตามกว่า 6.6 แสนคนบน Youtube “คุณคิม” ผู้ดำเนินรายการได้กลับมาพูดคุยกันอีกครั้งในซีรีส์ของ Future Finance หรือการเงินโลกอนาคต
ในช่วงต้นรายการคุณคิมกล่าวถึงการแข่งขันกันในเกมการเงิน เปรียบดังเกมกีฬาที่ถูกออกแบบมาให้ผู้ที่เข้าใจ จะสามารถชนะมันได้ หากเราเข้าใจมันเป็นอย่างดี เสมือนการพายเรือไปตามกระแสน้ำ
“ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไรก็ตาม หมอ ทนาย ต้องมีความเข้าใจด้านการเงินเพราะทุกวันนี้ทุกคนเล่นเกมการเงินเหมือนกัน ถ้าคุณไม่เข้าใจเกมการเงินแล้ว คุณก็จะโดนระบบการเงินเอาเปรียบและสูญเสียความมั่งคั่งโดยไม่รู้ตัว” คุณคิมกล่าว, 2017
ซึ่งธนาคารกลางและรัฐบาลเป็นผู้ที่มีอำนาจสามารถควบคุมระบบการเงินมาตลอด โดยตาม “ทฤษฎีเกม” แล้วนั้น ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดหรือความไว้ใจสูงสุดก็มีโอกาสพลาดในการตัดสินใจ ดังเช่นสถานการณ์ในประเทศเวเนซูเอลาหรือพม่า แต่กลับกันใน “ระบบกระจายอำนาจ” การคานอำนาจกันอาจได้ตัวเลือกที่ดีที่สุดต่อคนทุกคน
และในปี 2009 ก็มีสิ่งที่เรียกว่า Bitcoin เกิดขึ้นมา มันถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาระบบการเงินจากการถูกครอบคลุมจากทางภาครัฐ ซึ่งมันสามารถทำงานเป็นสกุลเงินได้อย่างไม่มีตัวกลาง ไม่มีธนาคาร และทุกคนสามารถเป็นเจ้าของมันได้ กล่าวคือไม่ถูกควบคุมจากทางภาครัฐ
ดังนั้นมันจึงเป็นการคานอำนาจของระบบการเงินแบบดั้งเดิมที่อยู่มากว่า 100 ปี ทำให้ผู้คนมีสิทธิ์เลือกรูปแบบการเงินของตัวเองได้ ซึ่งตัวอย่างก็มีให้เห็นในปี 1930 ที่เกิดขึ้นกับประเทศมหาอำนาจโลกอย่างสหรัฐอเมริกาในการควบคุม “ทองคำ” จากทางภาครัฐ
แน่นอนว่ามันไม่ใช่เพื่อเป็นการสร้างความมั่งคั่งให้กับประชาชน แต่เป็นการสร้างความมั่งคั่งของระบบการเงิน ความมั่งคั่งของรัฐ รวมไปถึงความมั่งคงทางอำนาจของประเทศ ซึ่งถ้าสูญเสียประสิทธิภาพทางการเงิน เกิดการควบคุมไม่ได้ก็จะส่งผลให้สูญเสียอำนาจเช่นเดียวกัน
ตัวอย่างเช่นในประเทศตุรกีที่ประธานาธิบดีได้ออกมากล่าวเชิงชักชวนว่าให้ขายทองคำแล้วหันมาซื้อและรักษาสกุลเงิน “Lira” ของรัฐบาลซึ่งเป็นสกุลเงินประจำประเทศ ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อเป็นการปกป้องระบบการเงิน ค่าเงินของสกุลเงินในประเทศ
และในตอนท้ายของวิดีโอคุณคิมได้กล่าวว่า
“ถ้าวันนี้มีเงินสักสกุลหนึ่งที่ไม่ขึ้นตรงต่อศูนยก์กลางหรือลดทอนอำนาจจากทางภาครัฐได้ สำหรับผมแล้วมันก็น่าที่จะลองศึกษาดู”