นับเป็นเช้าวันจันทร์แห่งการทำงานที่แสนสดใสสำหรับสาวกคริปโตเมื่อราคา Bitcoin พุ่งทะลุระดับ $50,000 ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ส่งผลให้ตลาดคริปโตกลับมาคึกคักอีกครั้งและ Altcoin อื่น ๆ ก็ดูเหมือนว่าจะสดใสไม่แพ้กัน นำโดย Ethereum (ETH) ที่ยืนเหนือระดับ $3,300 และ Cardano (ADA) ที่ร้อนแรงไม่หยุดทำ ATH แตะระดับ $2.8 ซึ่งในวันนี้ทาง Siam Blockchain จะพาไปชม 3 สาเหตุที่ทำให้ราคา Bitcoin พุ่งทะลุอย่างรุนแรงต้อนรับเช้าวันแรกของสัปดาห์ได้อย่างสวยงาม
Coinbase ประกาศซื้อคริปโตเข้าสู่งบดุลของบริษัท
เป็นที่ฮือฮาในวงการคริปโตอีกครั้งเมื่อล่าสุดบริษัท Coinbase กระดานเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ประกาศว่าจะซื้อสกุลเงินดิจิทัลด้วยเงินมูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์เข้าสู่ Balance Sheet ของบริษัท และมีแผนที่จะใช้กำไร 10% ของบริษัทซื้อเก็บสะสมไปเรื่อย ๆ ในอนาคต ทั้งนี้มีสาเหตุมาจากความกังวลในค่าเงินดอลลาร์และยังเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้ออีกด้วย
รายงานจาก cnbc กล่าวว่า Coinbase มีแผนที่จะลงทุนใน Ethereum และสกุลเงินดิจิทัลที่ใช้ระบบ Proof of Stake รวมไปถึง Defi Tokens อื่น ๆ ที่บริษัทให้ความสนใจ
ทางด้าน CEO ของบริษัทอย่างนาย Brian Armstrong ได้ออกมาพูดถึงการร่วมตัดสินใจของบอร์ดบริหารในแผนการซื้อสกุลเงินดิจิทัลว่า “ผมหวังว่าจำนวนเงินในการเข้าซื้ออาจจะเพิ่มมากไปกว่านี้ ทันทีที่ตลาดคริปโตเติบโตอย่างต่อเนื่อง”
แน่นอนว่าสิ่งนี้จะส่งผลดีต่อตลาดคริปโตในระยะยาวเนื่องจากเม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่ตลาดนั้นจะมีมากขึ้น ซึ่งกำไรของทางบริษัท Coinbase ส่วนใหญ่เป็นค่าธรรมเนียมจากการใช้งานของผู้ใช้งาน และเป็นที่ทราบกันดีว่าสากคริปโตในแดนมะกันนั้นมากแค่ไหน ต้องจับตาดูกันต่อว่าความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะส่งผลมากน้อยอย่างไรต่อตลาดคริปโต
Bitcoin ETF อาจได้รับอนุมัติจากทางสหรัฐฯ ในสิ้นปีนี้
ในปีนี้ที่เป็นปีทองของตลาดคริปโตได้มีการยื่นขอจดทะเบียนกองทุน Bitcoin ETF กันเป็นจำนวนมากจากเหล่านักลงทุนสถาบันเพื่อให้ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าถึง Bitcoin ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเราปฏิเสธไม่ได้ว่าปีนี้ Bitcoin นั้นเป็นกระแสที่มาแรงจริง ๆ
อย่างไรก็ตามหลักจากการผลักดันและยื่นขอจดทะเบียน Bitcoin ETF จากหลายบริษัทมาตลอดทั้งปี ทางด้านก.ล.ต.สหรัฐฯ ก็ยังไม่มีท่าทีที่จะอนุมัติให้อย่างง่าย ๆ เหมือนกับที่หลายประเทศทั่วโลกได้อนุมัติไปแล้ว เช่น แคนาดา สวีเดน สวีเดน เยอรมนี เป็นต้น แต่ล่าสุดในช่วงที่ตลาดคริปโตได้ฟื้นตัวกลับขึ้นมาเมื่อไม่กี่วันนี้ นาย Gary Gensler ประธานก.ล.ต.สหรัฐฯ ได้ออกมาพูดถึงประเด็นนี้ โดยเปรยว่าอาจมีโอกาสที่จะอนุมัติ Bitcoin ETF ที่มีการอ้างอิงราคามาจากตลาด Futures
ทำให้มีการคาดการณ์กันว่านี่อาจเป็นสัญญาณเชิงบวกจากทางก.ล.ต.สหรัฐฯ ที่มีต่อตลาดคริปโตและต่อการอนุมัติกองทุน Bitcoin ETF ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงเม็ดเงินจากผู้คนมากมายที่อาจรับความเสี่ยงไม่ได้มากจากการซื้อขาย Bitcin โดยตรง จะเข้ามาสนับสนุนตลาดคริปโตอย่างมหาศาล และนั่นก็ทำให้ราคา Bitcoin ตอบสนองอย่างที่เราได้เห็นกัน
Peter Schiff ออกมาแซะสาวก Bitcoin อีกครั้ง
นักด่า Bitcoin ในตำนานอย่าง Peter Schiff ได้ออกมาแซะสาวก Bitcoin อีกครั้งหลังจากการโพสต์ทวีตตอบกลับสื่อด้านการเงินอย่าง Benzinga
“ผมคงเป็นไอ้โง่และนั่งเสียใจที่ไม่ได้ซื้อ Bitcoin ในช่วงที่ราคามันต่ำ … แต่ไอพวกที่โง่กว่าคือคนที่ไม่ยอมขาย Bitcoin ตอนนี้”
ซึ่งเขาได้พยายามจะบอกว่า Bitcoin คือฟองสบู่และคนที่ไม่ยอมขาย Bitcoin ก่อนที่ฟองสบู่จะแตกนั้นคือโง่ที่แท้จริง สิ่งนี้อาจทำให้สาวกคริปโตรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็มีหลายคนที่อาจจะรู้สึกชินชาไปกับนาย Peter Schiff เสียแล้ว อีกทั้งยังมีการนำรูปเขาของมาทำเป็นมีมล้อเลียนอีกด้วย
เป็นที่รู้กันว่านาย Peter Schiff นั้นเป็นนักด่า Bitcoin ตัวยงมานานหลายปีตั้งแต่มันมีมูลค่าหลักร้อยดอลลาร์ หลายคนเองก็สงสัยว่าหากเขาซื้อ Bitcoin ตั้งแต่เริ่มด่า ปัจจุบันเขาอาจจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ต้องนั่งด่าแล้วก็เป็นได้ และการออกมากล่าวถึง Bitcoin ครั้งนี้ก็อาจส่งผลให้ความแค้นของสาวกคริปโตดันราคา Bitcoin พุ่งทะลุ $ 50,000 ฉีกหน้า Peter Schiff อย่างไม่เหลือชิ้นดี จะสังเกตได้จากทุกครั้งที่เขาออกมาแซะ Bitcoin ราคามักจะมีการปรับตัวขึ้นตามมาอยู่เสมอ
โดยการให้ความเห็นครั้งสำคัญครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในเดือนมีนาคมปี 2020 เขาโพสต์ทวีตว่า “Bitcoin พร้อมที่จะร่วงลงอีก 50% แล้ว” ซึ่งในขณะนั้น Bitcoin มีมูลค่าอยู่ที่ $5,000 โดยประมาณ แต่เพียงไม่กี่วันให้หลังจากการโพสต์ทวีตแซะของ Peter Schiff ราคา Bitcoin ก็ได้พุ่งสู่ระดับ $6,000 ในวันต่อมาและ $7,000 ในสิ้นเดือน ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ขาขึ้นครั้งใหญ่ในปลายปี 2020 จวบจนถึงปัจจุบันที่ระดับ $50,000
ในสัปดาห์นี้คงต้องติดตามกันต่อว่าราคา ฺBitcoin จะสามารถรักษามูลค่าไว้ที่ระดับ $50,000 ได้หรือไม่หลังจากการพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงมาตลอดเดือนสิงหาคมนี้ หรือจะเป็นการพุ่งไปยังทดสอบจุดสูงสุดตลอดกาลเดิมที่ระดับ $64,000 ก็ไม่อาจมีใครทราบได้ นักเทรดควรวางแผนการเทรดอย่างรอบคอบ