ปัจจุบันกระแสการใช้สกุลเงินดิจิทัลกำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก แต่แอฟริกาเป็นภูมิภาคที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงเกี่ยวกับเรื่องของ Crypto อย่างน้อยก็ในหมู่ประชาชน แม้ว่าประเทศอย่างไนจีเรียจะเดินขบวนต่อต้านการใช้ cryptocurrency ก็ตาม แต่ซิมบับเวก็เปิดประตูอีกให้เทคโนโลยีใหม่นี้อีกครั้ง
นาย Mthuli Ncube รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประเทศซิมบับเวได้ออกมากล่าวในศูนย์ DMCC Crypto ในดูไบเกี่ยวกับการลดต้นทุนด้านการโอนเงินระหว่างประเทศว่า
“ผมได้ไปเยี่ยมชม DMCC CRYPTO CENTER ในดูไบ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการบ่มเพาะคริปโตและสกุลเงินดิจิทัลและโซลูชันการชำระเงินที่น่าสนใจ ผมพบวิธีแก้ปัญหาที่สามารถลดค่าใช้จ่ายสำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศได้แล้ว”
ตามรายงานของธนาคารโลกเผยว่าปัจจุบันประชากรชาวซิมบับเวต้องเสียเงินราว ๆ 90 ล้านดอลลาร์สำหรับค่าธรรมเนียมในการโอนเงินระหว่างประเทศเลยทีเดียว
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รัฐมนตรีคลังสนับสนุนคริปโต เมื่อสองสามปีก่อน Ncube ได้กระตุ้นให้ประชาชน “ลงทุนในการทำความเข้าใจนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น bitcoin” และยังบอกเจ้าหน้าที่ให้เลียนแบบประเทศเช่นสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งกำลัง “ลงทุนในและทำความเข้าใจ bitcoin”
ในขณะที่ข้อความดังกล่าวจากทางการได้รับการชื่นชมจากบางคนในชุมชนคริปโต แต่บางคนก็ตั้งคำถามกับการรับรู้ที่ล่าช้าของรัฐมนตรี โดยนาย Victor Mapunga ซีอีโอของ Flexfintx บอกกับรัฐมนตรีว่าซิมบับเวเป็นบ้านของสตาร์ทอัพบล็อคเชนและคริปโตจำนวนมาก
เขากล่าวว่า
“เรามีบริษัทบล็อคเชนและคริปโตในซิมบับเวอยู่แล้ว เช่น @Flex_Tx ที่กำลังทำงานร่วมกับผู้คนในท้องถิ่น”
ความเห็นของนาย Victor ได้รับการสนับสนุนจากคนอื่นๆ และบางคนมีความเห็นว่าประเทศควรทำมากกว่านี้เพื่อส่งเสริมธุรกิจ crypto เนื่องจากซิมบับเวได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อมากที่สุด
จากข้อมูลของสถาบัน CATO ประเทศในแอฟริกาใต้มีอัตราเงินเฟ้อสูงถึง 50% ต่อเดือนในปี 2550 ก่อนที่จะลดลงเป็นอัตราประจำปีที่ 89.7 sextillions ในเดือนพฤศจิกายน 2551 อัตราเงินเฟ้อที่สูงยังคงมีอยู่ในซิมบับเว และสกุลเงินดิจิทัลถือเป็นสินทรัพย์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการจัดเก็บมูลค่าในประเทศที่มีแนวโน้มเงินเฟ้อ
แม้ว่าซิมบับเวจะมีนักลงทุน crypto หลั่งไหลเข้ามามากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เชื่อว่า crypto เป็นความคิดที่ดี วุฒิสมาชิก Jopa Sayeyo ตั้งข้อสังเกตบน Twitter ว่า
“เมื่อธนาคารหยุดควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ เมื่อนั้นธนาคารกลางซิมบับเว [RBZ] ถึงจะสามารถพิจารณาคริปโตเคอเรนซีได้ มิฉะนั้นจะนำไปสู่การร่วงลงครั้งใหญ่ของค่าเงิน ZWL [Zimdollar] “