The Mall Group ได้ประกาศความร่วมมือกับทาง Bitkub จัดงาน “เดอะพินนาเคิล ออฟ พรอสเพอร์ริตี้” (THE PINNACLE OF PROSPERITY) เพื่อสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน ด้วย 3 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ GLOBALIZATION, DIGITALIZATION และ TOURISM เพื่อพลิกโฉมหน้าเศรษฐกิจและยกระดับประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางการลงทุนและการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย
ตามรายงานจากสำนักข่าว sanook ยุทธศาสตร์หลัก 3 ประการข้างต้นนั่นได้แก่ โลกยุคใหม่แบบไร้พรมแดน (GLOBALIZATION) การปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล (DIGITALIZATION) และการท่องเที่ยวและการบริการ (TOURISM)
- GLOBALIZATION จะให้ความสําคัญในการมีพันธมิตรธุรกิจระดับประเทศและระดับโลก ในการลงทุน โครงสร้างพื้นฐานระดับประเทศ เพื่อเสริมสร้างรากฐานและ เพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งในการเติบโตของประเทศ ยุทธศาสตร์ที่สําคัญของประเทศไทย คือการยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจ การเงิน การเดินทางและท่องเที่ยว การบินและโลจิสติกส์ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากภาครัฐและเอกชน ในหลายโครงการเช่น โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC), โครงการเส้นทางสายไหม (One Belt One Road (OBOR) และโครงการรถไฟความเร็วสูง (HIGH-SPEED TRAIN & AIRPORT LINK) ที่เชื่อมต่อ 3 สนามบิน ดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา เข้าไว้ด้วยกัน
- DIGITALIZATION องค์กรภาคธุรกิจหลักทุกภาคส่วนต้องมีนวัตกรรมแห่งการเปลี่ยนแปลงให้เป็นโลก แห่งดิจิทัล (DIGITAL TRANSFORMATION) สู่เศรษฐกิจยุค 5.0 อย่างสมบูรณ์แบบ เข้าสู่โลกดิจิทัลแบบไร้ขีดจํากัด และมีระบบนิเวศทางดิจิทัลที่ครบวงจร (DIGITAL ECOSYSTEM) และต้องอาศัยการมี สมาร์ท ดิจิทัล แพลตฟอร์ม (SMART DIGITAL PLATFORM) หรือโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะที่อาศัยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทั้งยังต้องได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนของทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันระดับทั้ง ในระดับภูมิภาค และระดับโลก
- TOURISM ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ กลยุทธ์ที่สําคัญคือจะต้องรี โพสิชั่นนิ่ง (REPOSITIONING) วางเป้าหมายทางการท่องเที่ยวใหม่ มุ่งเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพเป็นหลัก เช่น กลุ่ม นักท่องเที่ยวที่มีกําลังซื้อสูง กลุ่มนักธุรกิจ นักลงทุนรุ่นใหม่ กลุ่มเศรษฐีใหม่ (NEW WEALTH) จากการลงทุนใน สินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นภาครัฐต้องผลักดันการฟื้นฟูภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ ตลอดจน ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยว เพื่อส่งผลดีต่อบ่วงโซ่ธุรกิจ คือ ธุรกิจ ค้าปลีก เอ็นเตอร์เทนเมนท์ โรงแรม สายการบิน เรือท่องเที่ยวและเรือสําราญ โรงพยาบาล สุขภาพและความงาม ตลอดจนธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นสวรรค์ของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และการท่องเที่ยว (HEAVEN FOR DIGITAL ASSET INVESTOR & TOURISM)
การร่วมมือกันในครั้งนี้จะเป็นการผนึกความร่วมมือกับภาครัฐและ ภาคเอกชน ทั้งในภาคอุตสาหกรรมธุรกิจหลักเพื่อช่วยให้ประเทศไทยนั้นกลายศูนย์ด้านการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และการ ท่องเที่ยว แห่งภูมิภาคเอเชีย
นอกเหนือจากการร่วมมือกับทาง The Mall Group แล้ว Bitkub ยังได้ร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งภูมิภาคเอเชียการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)เพื่อยกระดับการให้บริการและการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการของผู้ประกอบการไทย และพลิกโฉมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ให้สอดคล้องกับ เทคโนโลยี Blockchain และนำ Digital Asset ในรูปแบบ Cryptocurrency มาปรับใช้กับนักท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย
การร่วมมือกับ ททท. จะเป็นการนำ Bitkub ไปสู่พันธมิตรด้านการท่องเที่ยวอีกหลายรายซึ่งรวมถึง ไทยแอร์เอเชีย, บางกอก เชน ฮอสปิทอล , ดุสิตธานี , อนันดา ดีเวลลอปเม้นตท์, มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย), BDMS และ Bangkok Airways
โดยการร่วมมือข้างต้นนี้จะช่วยผลักดันกรณีการใช้งานให้กับสกุลเงินดิจิทัลมากมาย อาทิเช่น การนำสกุลเงินดิจิทัลมาแลกเปลี่ยนเป็นเที่ยวบินหรือสินค้าบริการในเครือของแอร์เอเชีย การนำสกุลเงินดิจิทัลชำระค่ารักษาพยาบาลในเครือของบางกอก เชน ฮอสปิทอล หรือการชำระบริการในเครือโรงแรมของ ดุสิตธานี, การนำสกุลเงินดิจิทัลมาชำระค่าบริการในเครือยานยนต์ของมิลเลนเนียม กรุ๊ป ไปจนถึงการนำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้ชำระเงินซื้อตั่วเที่ยวบินในเครือของ Bangkok Airways ทั้งหมดถือเป็นการขยายฐานลูกค้า และเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กําลังเติบโต ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดี