ถึงแม้ว่ารายงานล่าสุดจะแสดงถึงการที่ธนาคารกลางจีนกำลังจับตาจ้องมองบริษัทผู้ให้บริการเทรดบิทคอยออนไลน์แบบใกล้ชิด แต่นักเทรดในจีนต่างก็แยแสไม่
โดยในการให้สัมภาษณ์นั้น ทางสมาชิกของชมรมนักเทรดบิทคอยในจีนและพนักงานเว็บเทรดบิทคอยต่างก็เชื่อว่าการถูกจับตาดูพฤติกรรมจากรัฐบาลนั้น จะกลายเป็นผลดีระยะยาวสำหรับบิทคอย
นักเทรดสาย OTC (Over-the-counter หรือการเทรดหน้าเคาท์เตอร์) นามว่า Zhao Dong ผู้ที่อ้างว่าได้ทำการเทรดบิทคอยไปแล้วมากกว่า 250 บิทคอย (หรือราวๆ 7.2 ล้านบาท) ต่อวัน ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่ “กังวล” แม้แต่น้อยเกี่ยวกับบิทคอย
โดยรวมแล้ว เขาเชื่อว่าทางธนาคารกลางจีนก็เพียงแค่อยากจะออกมาแสดงความเป็นห่วงนักลงทุนด้วยการลดความเสี่ยงลง และก็ไม่มีความประสงค์ร้ายหรือหาทางหยุดยั้งพวกเขาในการใช้บิทคอย
เขากล่าวว่า
“ก็จริงอยู่ที่ช่วงนี้มีการแย่งกันเทขาย แต่นักเทรดบิทคอยรุ่นเก๋าอย่างผมจะไม่ตื่นตัวตามตลาดเด็ดขาด อันที่จริงแล้วมันเป็นโอกาสดีที่จะทำกำไรด้วยซ้ำ”
นาย Zhou Shouji หรือพนักงานให้บริการของ Fintech Blockchain Group หรือบริษัทที่ให้บริการทางด้าน hedge fund ของบิทคอยได้อ้างว่าเขาได้เก็บรวบรวมเงินลงทุนของผู้ใช้บริการมาแล้วถึง 20 ล้านดอลลาร์ พร้อมกับย้ำว่าความผันผวนของราคาที่สูงมากในตลาดช่วงนี้ไม่ได้ส่งผลให้นักเทรดในประเทศกังวลเกี่ยวกับการจับตาดูของรัฐบาลแม้แต่น้อย
“ทุกๆคนก็รู้กันดี” เขากล่าว
โดยอาจกล่าวได้ว่าเป็นคำพูดที่ถูกพูดออกมาหลังจากการเข้าตรวจบริษัท BTCC, Huobi และ OkCoin ของทางธนาคารกลางจีน และทำให้ตลาดปั่นป่วน (ซึ่งส่งผลให้ราคาตกถึงจุดต่ำสุดในรอบเดือนเมื่อวานนี้)
โดยในขณะที่กำลังรายงานข่าวอยู่นี้ ราคาของบิทคอยเริ่มดีดตัวขึ้นมาอยู่ที่ 810 ดอลลาร์จากเมื่อวานนี้ซึ่งอยู่ที่ราวๆ 770 ดอลลาร์
โวลลุ่มการเทรดที่ลดลง
ถึงกระนั้น ขณะที่ความมั่นใจของพวกเขาอาจจะสูง แต่รายงานจากเว็บเทรดบิทคอยบางที่ก็ออกมาบอกว่าพฤติกรรมของเทรดเดอร์บนเว็บของพวกเขาเปลี่ยนไป
นาย Kong Gao หรือพนักงานผู้ให้บริการเทรดแบบ OTC ของบริษัทหนึ่งนามว่า Richfund ได้กล่าวว่าก่อนหน้านี้ได้เห็นอัตราการเติบโตของนักเทรดสูงมากๆในช่วงที่ราคากำลังวิ่งไปแตะ ATH ที่ 1,153 ดอลลาร์ แต่หลังจากนั้นอัตราการก็เริ่มลดต่ำลงมาเรื่อยๆ
เป็นที่น่าสังเกตว่าการเทรดแบบ OTC นั้นจะมีแต่นักลงทุนรายใหญ่เข้ามาเทรด โดยพวกนักลงทุนเหล่านี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นผู้ “เคลื่อนไหวราคา” อย่างแท้จริง
“การวิ่งขึ้นของราคาแบบที่ผ่านมามีผลต่อโวลลุ่มของการเทรดแบบ OTC มาก” กล่าวโดยนาย Kong “นักลงทุนบางคนก็มีเครียดกันบ้าง แต่พวกเราก็ช่วยปลอบใจเขาว่าความผันผวนของราคาแบบนี้มันนานทีจะเกิดขึ้นทีในโลกของบิทคอย”
กระนั้น เขาก็ปฏิเสธที่จะแสดงตัวเลขของนักเทรดที่ถูกผลกระทบจากการตกของราคาของบิทคอย
CHBTC หรือผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนบิทคอยมีโวลลุ่มการเทรดบิทคอยต่อวันอยู่ที่ 115,000 ดอลลาร์ก็ยังออกมารายงานว่าเขายังเห็นลูกค้าหน้าใหม่เข้ามาใช้บริการเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าข่าวจากทางธนาคารกลางจีนจะทำให้ตลาดซบเซา
“นักเทรดส่วนใหญ่กำลังรอดูว่าอะไรจะกำลังจะเกิดขึ้นต่อไป” ตัวแทนจาก CHBTC กล่าว
เธอเสริมว่าทางบริษัทนั้นยังต้อนรับธนาคารกลางจีนถ้าหากจะเข้ามาตรวจอีกด้วย
การปลอมโวลลุ่มการเทรด
กระนั้น ก่อนหน้านี้ตอนที่มีข่าวออกมาก็ได้ส่งผลให้ผู้คนต่างก็กังวลว่าทางรัฐบาลอาจจะเข้าใช้กำลังเพื่อบังคับให้บริษัทเทรดเหล่านั้นปิดตัวลง
นาย Zhao Dong ได้กล่าวว่าผู้คนส่วนใหญ่ทั้งในและนอกจีนมีความเชื่อว่าเว็บเทรดในจีนนั้นต่างก็ “ปลอมโวลลุ่มการเทรด” เพื่อให้ดูเยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักเทรดในตะวันตก ซึ่งนั้นก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้หลายๆคนไม่อยากจะไว้วางใจเว็บเทรดเหล่านี้เท่าไรนัก
เขายังกล่าวอีกว่าการปลอมโวลลุ่มนั้น ไม่ได้ปลอมกันทั้งหมดเสมอไป เนื่องจากในตลาดบิทคอยจีนนั้นมีนักลงทุนอิสระ และนักเทรดสาย arbitrage (ซื้ออีกเว็บเพื่อโอนมาขายอีกเว็บ) มาก และพวกเขาเหล่านี้คือตัวการสำคัญที่ทำให้โวลลุ่มในตลาดจีนมีมาก (ตัวเลขจากงานวิจัยของ CoinDesk ได้บอกว่ามีราวๆ 95% ของโวลลุ่มการเทรดบิทคอยอยู่ที่จีน)
นาย Harry Yeh ผู้จัดการหุ้นส่วนแห่งบริษัทสัญชาติอเมริกัน Binary Financial หรือผู้ให้บริการเทรดสาย OTC เห็นด้วยว่าตลาดจีนนั้นใหญ่จริง หรืออาจกล่าวได้ว่าใหญ่กว่าที่ชาวตะวันตกหลายๆคนคิด
“ผมคิดว่าผู้คนส่วนใหญ่มักจะดูถูกขนาดของตลาดบิทคอยในจีน จริงๆแล้วนักเทรดรายใหญ่ และนักขุดรายใหญ่ที่คิดเป็นส่วนน้อยนั้นอยู่ข้างนอกจีนกันหมด” เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม เขาได้รับรู้ว่าถ้าหากทางรัฐบาลค้นพบถึงการให้บริการที่ผิดกฏหมายในเว็บเทรดเหล่านั้นจะส่งผลให้ตลาดบิทคอยดู “แย่ลง” ทันที
หลายๆคนต่างก็ออกมาเน้นย้ำเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าถึงแม้ถ้าหากทางการจีนพยายามที่จะแบนหรือออกกฏหมายให้คนหยุดเทรดบิทคอยจริง ก็ไม่อาจจะหยุดผู้ใช้งานบิทคอยได้เนื่องจากเทคโนโลยีบล็อกเชนนั้นมันเป็นการกระจาย
ตัวแทนจากเว็บผู้ให้บริการเทรดบิทคอยนามว่า Yunbi ได้ออกมากล่าวว่าเขาไม่กังวลแม้แต่น้อยถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นถึงแม้ว่าทางบริษัทของเขาจะไม่ได้ถูกตรวจโดยทางรัฐบาลก็ตาม
“จากมุมมองของการพัฒนาบิทคอยนั้น ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดี”
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น