หุ้นของบริษัท Western Union ได้ร่วงลงหลังจากที่ประธานาธิบดีของเม็กซิโกได้ยกเลิกการประชุมกับนายโดนัล ทรัมป์ ในขณะที่ความต้องการบิทคอยในประเทศกลับเพิ่มขึ้น
โดยเริ่มมาจากการประกาศของทางประธานาธิบดีของสหรัฐฯหรือนายโดนัล ทรัมป์ถึงความต้องการเริ่มสร้างกำแพงทางตอนใต้ระหว่างประเทศสหรัฐฯและเม็กซิโก โดยหวังให้ทางเม็กซิโกเป็นผู้จ่ายค่ากำแพงประมาณ 20% ด้วยเงินที่ได้มาจากภาษีนำเข้า จากนั้นนายเอนริเก้ เพนา นีเอโต้ หรือประธานาธิบดีของเม็กซิโกก็ได้ออกมายกเลิกแผนการประชุมของทั้งสอง โดยความไม่ลงรอยกันของทั้งสองประเทศในขณะนี้ส่งผลให้เกิดสภาวะช็อคทางเศรษฐกิจที่มีผลต่อวงกว้างในภาคเอกชน โดยเฉพาะบริษัท Western Union ที่ดูเหมือนจะโดนผลกระทบพอสมควร
นาย Marco Montes Neri หรือผู้ก่อตั้งบริษัท Saldo.mx ที่ให้บริการทางด้านการโอนเงินระหว่างประเทศเชื่อว่าความผันผวนทางตลาดที่มีขึ้นชั่วคราวนั้นเกิดจากคำพูดของทางประธานาธิบดีที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง
“ผมคิดว่าพูดน่ะมันง่าย แต่ลองดูที่ทรัมป์เขาทำสิ แค่เซ็นชื่อแล้วก็หวังว่าตลาดจะดีดตัวตาม ความเป็นจริงคือการตัดสินใจต่างๆนั้นจะต้องผ่านความเห็นชอบจากหลายๆฝ่ายมากมาย ดังนั้นเราคงไม่ได้เห็นตลาดออกมาเด้งตามที่หวังไว้หรอก เพราะยังไงสภาครองเกรสก็ต้องออกมายกเลิกอยู่วันยังค่ำ”
นายโรเบิร์ต เจนิโตหรือ CEO ของ Genitrust ผู้ให้บริการทางด้านการส่งเงินแบบ P2P สำหรับเว็บ Wall of Coins ได้ออกมากล่าวว่าถ้าหากโดนัลทรัมป์จะออกมาลงทุนจ่ายเงินให้กำแพง มันก็คงเป็น “กำแพงแห่งเหรียญ” ซะมากกว่า เขาเชื่อว่าผลกระทบนี้ไม่น่าจะส่งผลต่อทางภาคเศรษฐกิจมากนัก “ผมไม่สนใจการเมือง สิ่งที่ผมแคร์มีแค่อย่างเดียวคือเหรียญ cryptocurrency”
บิทคอยจะเป็นเงิน Safe Haven เมื่อค่าเงินเปโซกำลังอ่อนค่า
หลังจากที่นายเอนริเก้ตัดสินใจยกเลิกการประชุมกับนายโดนัล ทรัมป์นั้น ส่งผลให้ค่าเงินเปโซร่วงลงอย่างรุนแรงถึง 1% ต่อดอลลาร์
นาย Jose Rodriguez หรือหัวหน้าฝ่ายการจ่ายเงินและพัฒนาธุรกิจของบริษัท Bitso หรือเว็บแลกเปลี่ยน cryptocurrency สัญชาติดม็กซิกันได้มองบิทคอยว่าเป็นทางออกสำหรับชาวเม็กซิกันเพื่อที่จะหลีกหนีเหตุการณ์เงินเฟ้อในประเทศ “ถ้าหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงขึ้นมา จะทำให้ประชาชนเกือบทั้งประเทศออกมามองหาทางเลือกใหม่อย่างเช่นบิทคอยหรือเหรียญอื่นๆแน่นอน ยกตัวอย่างเช่นบิทคอยในทั่วโลกตอนนี้ที่เริ่มเข้ามาแก้ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง รวมไปถึงธนาคารที่ออกข้อตกลงห่วยๆออกมา ซึ่งนั่นทำให้ผู้คนมีอิสระในการใช้เงินในทางที่สะดวกมากขึ้น”
ความสนใจใน Cryptocurrency ในประเทศเม็กซิโกเพิ่มมากขึ้น
จากผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นประเทศเม็กซิโกในตอนนี้ รวมไปถึงปัญหาในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้นมาอีกโดยมีผลมาจากประเทศสหรัฐฯ การถือค่าเงินทางเลือกอืนๆอย่างเช่นบิทคอยเป็นสิ่งที่ควรทำ กล่าวโดยนาย Jose
“คนเม็กซิกันมองบิทคอยเป็นตัวเลือกหนึ่งที่จะช่วยหลีกหนีปัญหาเรื่องเงินอ่อนค่า ตอนนี้ค่าเงินเปโซนั้นได้อ่อนค่าลงถึงห้าสิบเปอเซนต์ต่อค่าเงินดอลลาร์มาเป็นเวลาสองปีแล้ว ทุกๆครั้งที่โดนัล ทรัมป์ขึ้นมาออกประกาศอะไรก็แล้วแต่ที่สามารถจะส่งผลกระทบต่อรายได้ และการซื้อขายระหว่างประเทศกับเม็กซิโก เงินดอลลาร์กับบิทคอยก็มักจะขึ้นสวนทางกับค่าเงินเปโซ”
ความสนใจในการมองหาทางเลือกใหม่เพ่ือป้องกันการสูญเสียมูลค่าของค่าเงินตนเองนั้นสามารถวัดได้จากโวลลุ่มของการเทรดบิทคอย การซื้อและการขายบิทคอยบนเว็บซื้อขายแบบ P2P อย่างเช่น LocalBitcoins ได้แสดงได้เห็นถึงตัวเลขที่เพิ่มขึ้นหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีในสหรัฐฯ รวมไปถึงเหตุการณ์การกลัวการขึ้นตำแหน่งของนายโดนัล ทรัมป์ที่ส่งผลให้คนแห่กันไปซื้อบิทคอยบนเว็บ Bitso ด้วย
“ผู้คนกำลังเริ่มหันมาหาเว็บ Bitso รวมไปถึงกลุ่มชมรมบิทคอยต่างๆ เพื่อตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้บิทคอยเพื่อการใช้จ่ายระหว่างประเทศ, การลงทุน หรือการใช้เป็นค่าเงินทางเลือกเมื่อภาษีนั้นแพงเกินกว่าเหตุ”
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น