มันเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกๆวันนี้ Bitcoin นั้นกำลังคลืบคลานเข้ามาใกล้เพื่อกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเราไปทีละน้อย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อตั๋วเครื่องบิน, การกินก๋วยเตี๋ยว, การกินแฮมเบอร์เกอร์ และอื่นๆอีกมากมาย ทว่าดูเหมือนจะมีอีกหนึ่งหมวดหมู่ของสิ่งของประจำวันที่ได้เข้ามาร่วมในแกงค์ “ผู้รับชำระสินค้าด้วย Bitcoin” เหล่านี้เช่นกัน ซึ่งหมวดหมู่นั้นก็คือเครื่องสำอางและความสวยความงาม
นามว่า Beauticool.com หรือบริษัทสัญชาติไทยที่เปิดตัวเมื่อปี 2015 ที่ผ่านมาด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ซึ่งตั้งตัวเองเป็นหนึ่งในผู้นำทางด้านตัวแทนจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับความงาม, น้ำหอม และอื่นๆอีกมากมายแบบออนไลน์ ได้ตัดสินใจเปิดรับชำระสินค้าด้วย Bitcoin เป็นอีกนึ่งข่องทางการจ่ายเงิน
โดยอ้างอิงจากคุณเกรียงไกร วาณิชรัตนากร หรือ CMO ของบริษัท Beauticool.com นั้น เขาได้กล่าวถึงการตัดสินใจของบริษัทในครั้งนี้ ว่ามาจากความชอบและวิสัยทัศน์ส่วนตัวที่ก่อนหน้านี้เคยลงทุนในตัว Bitcoin ด้วยตัวเองจนมองเห็นศักยภาพของมันว่าจะมาเป็นตัวปฏิวัติวงการ E-commerce (การขายสินค้าออนไลน์) ทั่วโลก และยังมองว่าในต่างประเทศก็มีการรับ Bitcoin มาสักระยะหนึ่งแล้ว จึงมีแนวคิดที่อยากจะเป็นตัวแทนจำหน่ายด้านเครื่องสำอางในประเทศไทยรายแรกที่รับ Bitcoin บ้าง
“ส่วนตัวคือผมลงทุนใน bitcoin มาสักพักแล้วครับ เห็นถึงศักยภาพ มองว่าเป็นอนาคตใหม่ e commerce ต่างประเทศก็เปิดรับมาได้สักพักแล้ว เราอยากจะเป็นเจ้าแรกที่ทำในไทย อยากให้คนไทยเชื่อว่ามันซื้อสินค้าได้จริงๆครับ”
กล่าวโดยคุณเกรียงไกร
กฎหมายในประเทศไทยเกี่ยวกับ Bitcoin ที่ยังไม่ชัดเจน
แม้ว่าก่อนหน้านี้ท่าทีของแบงก์ชาติเกี่ยว Bitcoin จะยังอยู่ในโซนสีเทาโดยออกมาบอกกับผู้ใช้งาน Bitcoin เมื่อสามปีที่แล้วว่า Bitcoin นั้นไม่ผิดกฎหมาย แต่ผู้ใช้งานควรที่จะใช้มันด้วยความระมัดระวัง ทว่านั่นก็ไม่ได้ทำให้ผู้ใช้งาน Bitcoin ในไทยรู้สึกท้อใจแต่อย่างใด เมื่อสมาชิกของกลุ่ม Bitcoin Thai Club บนเฟสบุคกลับมีจำนวนเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดในเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ แที่สำคัญเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แบงก์ชาติได้ออกมาอัพเดตสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับ Bitcoin โดยพวกบอกว่ากำลังศึกษา Bitcoin อยู่ และกำลังเล็งที่จะแก้กฎหมาย Fintech เพื่อให้รองรับ “ประเทศไทย 4.0” ด้วย โดยประกาศดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นราวๆหนึ่งเดือนหลังจากที่ทางรัฐบาลประเทศญี่ปุ่นทำให้ Bitcoin ถูกกฎหมายในประเทศไปแล้ว
ดูเหมือนนั้นจะไม่เป็นอุปสรรคต่อ Beauticool.com แต่อย่างใด โดยอ้างอิงจากคุณเกรียงไกรนั้น เขามีความเชื่อว่ายังไงทางธนาคารแห่งประเทศไทยสักวันก็ต้องทำให้มันถูกกฎหมายอยู่ดี แม้ว่าในขณะนี้อาจจะมีผลในทางด้านความรู้สึกของลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าบนเว็บและเห็นตราสัญลักษณ์ Bitcoin อยู่ก็ตาม แต่เขาก็แสเงความมุ่งมั่นที่จะทำให้ Bitcoin มีความเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยเขากล่าวว่า
“สักวันธนาคารแห่งประเทศไทย BOT ก็ต้องยอมรับครับ ส่วนเรื่องเป็นอุปสรรคไหม คิดว่ามีผลบ้างในความรู้สึกลูกค้าครับ เราจึงอยากจะเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ช่วยสนับสนุนให้เกิดการใช้จ่ายผ่าน bitcoin จริงๆ”
คุณเกรียงไกรยังกล่าวเพิ่มว่า
“ถ้าเราเริ่ม ต่อไปผมมั่นใจว่าอนาคตจะมีอีกหลายธุรกิจเริ่มเปิดรับ เมื่อมีสภาพคล่องให้ end user ได้จับจ่าย ได้มุมมอง Bitcoin ที่เป็นแค่การลงทุนในกลุ่มคนเล็กๆ ก็จะเริ่มเป็นที่ยอมรับมากขึ้นครับ”
อัตราการใช้งานของผู้หญิงไทยยังน้อย
ปัจจุบันอัตราส่วนการใช้งาน Bitcoin ของผู้หญิงในไทยนั้นยังถือว่าค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับผู้ชาย โดยข้อมูลจาก Google Analytics ของสยามบล็อกเชนได้เผยถึงจำนวนเปอร์เซ็นต์ผู้ใช้งานเว็บไซต์ที่มีผู้หญิงเพียงแค่ 14.7% เท่านั้น เมื่อเทียบกับผู้ชายที่มีอัตราส่วนถึง 85.3%
กระนั้นคุณเกรียงไกรก็ยังมีความเชื่อว่า Bitcoin นั้นไม่ใช่ของยาก ถ้าหากจะลองศึกษา และแนะนำให้ลองเข้าไปเรียนรู้ก่อนที่จะทำการวิจารณ์อีกด้วย
“ผู้หญิงยุคใหม่ต้องสวยฉลาด Beauty + Cool = Beauticool ครับ ในมุมมองส่วนตัวคือ คนเราถนัดไม่เหมือนกัน ถ้ายังไม่รู้จัก bitcoin เลย ตอนนี้มีข้อมูลมากมายให้ลองอ่านศึกษากัน อย่าปฎิเสธทั้งที่ยังไม่รู้จัก หลายๆท่านเอาแต่วิจารณ์ทั้งที่ยังไม่รู้ข้อมูล ลองศึกษาอย่างน้อยๆเราก็ได้ความรู้โลกเดี๋ยวนี้วิ่งไวมากคนที่ยึดติดกับเรื่องเก่าๆจะตามคนอื่นทันยากครับ”
ก่อนหน้านี้ก็มีบริษัทผู้ผลิตเครื่องสำอาง Lush ในเมือง London ก็เปิดให้ทางลูกค้าสามารถจ่ายซื้อสินค้าด้วย Bitcoin แล้วเช่นกัน ด้วยการที่มีบริษัทในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความสวยความงามหันมารับ Bitcoin กันมากขึ้นนั้น ในไม่ช้าเราอาจจะได้เห็นสัดส่วนการใช้ Bitcoin ในกลุ่มผู้หญิงนั้นเพิ่มขึ้นมาเทียบเท่า หรือมากกว่าผู้ชายในอนาคตก็ได้
ภาพสาวแต่งหน้าจาก indulgebeautylounge
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น