<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

บทวิเคราะห์ GoldMint เหรียญดิจิตอลที่นำไปผูกกับทองคำคืออนาคตแห่งโลกนี้หรือไม่

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

มันเป็นเรื่องที่ใครหลายๆคนคงจะเคยคิดเอาไว้ว่าบางทีการนำเอาเหรียญ cryptocurrency มาผูกติดกับหินแร่มีมูลค่าอย่างทองคำที่อยู่คู่ชาวโลกมานานนับร้อยๆปีจนกระทั่งมันได้กลายมาเป็นมาตรฐานของสินทรัพย์และเงินสดของในหลายๆประเทศ ซึ่งการออกสกุลเงินดิจิตอลที่มีทองคำมาแบคไว้อาจกล่าวได้ว่าเป็นไอเดียที่ค่อนข้างจะน่าสนใจเลยไม่น้อย เนื่องจากทองคำที่มีรูปธรรมสามารถจับต้องได้อาจจะมีข้อจำกัดเรื่องการจัดเก็บ, ความปลอดภัย, การส่ง และการ quote หน่วยย่อยที่ทำได้ยาก ซึ่งก็มีบริษัทที่เล็งเห็นความสำคัญตรงจุดนี้ และได้นำเอาข้อได้เปรียบของสินทรัพย์ทั้งสองมาผนวกด้วยกันจนเกิดเป็นไอเดียเหรียญใหม่

ชื่อของพวกเขาคือ GoldMint ถูกก่อตั้งเมื่อปี 2016 โดยบริษัท LOT-ZOLOTO โดยบริษัทนี้จะซื้อทองคำจากร้านรับจำนำต่างๆและส่งต่อให้กับพ่อค้าอีกทีหนึ่ง ซึ่งในครึ่งปีแรกของปี 2017 นั้น LOT-ZOLOTO มีมูลค่าถึง 50.2 พันล้านดอลลา ทำให้บริษัทนี้มีประวัติและเป็นผู้นำในตลาดค้าทอง

GoldMint เป็นโปรเจค ICO ที่ต้องการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับการเก็บรักษาและแลกเปลี่ยนทองคำโดยนำระบบ Blockchain เข้ามาช่วยเพื่อทำให้ระบุทองคำและการเก็บรักษาแลกเปลี่ยนทำได้ง่ายและมีค่าใช้จ่ายที่ถูกลง เนื่องจากในปัจจุบันการเก็บรักษาทองคำนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากโดยข้อมูลที่ได้รับจาก GoldMint คือประมาณ 0.25% ของราคาทองคำ

โดย GoldMint จะผูกค่าเงินดิจิตอลกับทองคำโดยจะมีโทเคนออกมาสองสกุลคือ GOLD และ MNT โดยโทเคนสองชนิดนี้จะนำมาใช้กับระบบของ GoldMint

ผู้ก่อตั้งและทีมงาน

ด้วยพลังของเทคโนโลยี Blockchain ทำให้การระดมทุน ICO ไม่มีพรมแดนเข้าถึงง่ายสะดวก ทำให้มีเม็ดเงินจำนวนมหาศาลไหลเข้ามาในการระดมทุนด้วยวิธีนี้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงและในปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายที่แน่ชัด ทำให้การตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้สร้างโปรเจคเพื่อดูความเป็นไปได้ของโครงการเป็นอะไรที่สำคัญมาก และนี่คือรายชื่อของผู้มีส่วนร่วมในโครงการนี้

Dmitry Plutshevsky, CEO of GoldMint.

Konstantin Romanov – co-CEO

Igor Ryabenkiy – Altair Capital, best business angel in Russia

Eugeny Volfman – Investor relations management

CTO – Konstantin Pichugin, development experience since 2006

Lead programmer – Anton Akentiev, chain.cloud

Business Development – Vyacheslav Sokoltsov

โดยสำหรับบุคคลในทีมงานที่น่าสนใจนั้นคือนาย Anton Akentiev ที่มีประสบการณ์ในเทคโนโลยี Blockchain ถึงสองปีและเป็น CEO ของ chain.cloud ที่ทำเซอวิสเกี่ยวกับเทคโนโลยี Blockchain

อีกทั้งยังมีนาย Igor Ryabenkiy ผู้เป็น angel investor ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี

นาย Kirill Zhukov ผู้มีประสบการณ์ทำงานในธนาคารต่างๆมากว่า 20 ปี

นาย Dmitry Plutshevsky ผู้เป็น CEO ของ GoldMint มีประสบการณ์ Business Development Director ที่ Typhoon Digital Development และปัจจุบันเป็น CEO ของ LOT-ZOLOTO

ระบบของ GoldMint

ระบบของ GoldMint จะรันอยู่บน Blockchain โดยใช้โทเคนที่ชื่อว่า GOLD ซึ่ง GOLD นี้จะเป็นโทเคนที่ถูกคำประกันโดยทองคำโดย 1 GOLD จะมีค่าเท่ากับทองคำ LBMA 1 ออนซ์ (ทองคำแท่ง 99%) และเมื่อมันกลายเป็นโทเคนดิจิตอลทำให้มันง่ายที่จะแลกเปลี่ยนเก็บรักษาหรือให้กู้ยืม

[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]

ระบบของ GoldMint จะรับซื้อและขาย GOLD ตามราคาตลาดทองคำปกติ โดยบริษัท GoldMint จะค้ำประกันระบบด้วยกองทุน ETF และทองคำอีกจำนวนนึงเป็นหลักทรัพย์ ซึ่งบริษัท GoldMInt จะถือ GOLD อยู่ไม่เกินทองคำที่บริษัทถือ

และนี่เป็นข้อมูลที่น่าสนใจของระบบ Goldmint

  • GoldMint จะใช้บล็อคเชนย์และโทเคนที่ชื่อว่า MNT ในการยืนยันธุรกรรมของ GOLD
  • GoldMint ใช้อัลกอริทึม Proof of stake ซึ่งผู้ขุดคือคนที่ถือ MNT
  • ข้อมูลทองคำแท่งและทุน ETFs จะถูกเก็บอยู่ในโปรแกรมที่เก็บแบบ Decentralized
  • Goldmint จะใช้ CustyBot ในการเก็บข้อมูลทองคำโดยไม่ใช้คนในการตรวจสอบ
  • ข้อมูลทองคำทั้งหมดที่ GoldMint ถือไว้จะถูกเปิดเผยต่อสารธารณะ ซึ่ง GoldMint จะรับซื้อมันที่ราคาตลาด
  • GoldMint ใช้ Decentralized Blockchain สำหรับ Smart contract และเก็บเงินดิจิตอล
  • GoldMint ใช้กองทุน ETF ด้วยเหตุผลในด้านสภาพคล่องเพื่อให้สามารถแลกเปลี่ยนทองได้อย่างรวดเร็ว
  • หลักประกันเงินกู้นั้นคือทองคำหรืออัญมณีต่างๆ โดย GoldMint จะเก็บข้อมูลของมันโดยใช้ CustodyBot

กลุ่มเป้าหมาย

  • นักเทรด Crypto
  • นักลงทุนทั่วไป
  • ธุรกิจ E-commerce
  • นาคาร

GoldMint นั้นมุ่งเป้าที่หลายเป้าหมายถ้าเป็นในแง่ของนักลงทุนและนักเทรด การลงทุนกับ GOLD นั้นจะช่วยลดความเสี่ยงในพอร์ทของพวกเขาได้ บริษัท E-commerce นั้นก็สามารถรับ GOLD เป็นช่องทางการจ่ายเงินและสุดท้าย ธนาคารจะได้ประโยชน์เนื่องจากการเทรดทองที่มีสภาพคล่องดีขึ้นรวมถึงการเก็บค่าธรรมเนียม

GOLD Token

ในระบบของ GoldMint โทเคน GOLD จะมีค่าเท่ากับทองคำ LBMA 1 ออนซ์ ซึ่งจำนวนเหรียญนี้จะมีจำกัดโดยมันจะมีค่าไม่เกินทรัพย์สินที่ทาง GoldMint รับประกัน ราคาขาย GOLD จากเงินจริงๆจะมีราคาอยู่ที่ราคาทองคำ LBMA +5% และ +% ค่าธรรมเนียมของระบบที่ไม่เกิน 4%

ส่วนราคารับซื้อจะเป็นราคาทองคำ LBMA + 3% และ +% ค่าธรรมเนียมของระบบที่ไม่เกิน 4% ซึ่งหากใครต้องการซื้อเหรียญ GOLD จะต้องผ่านระบบ KYC ของ GoldMint

โดยการแลก GOLD เป็นทองคำแท่งจะสามารถทำได้ในประเทศที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น และสำหรับการแลก GOLD เป็นเงินจริงนั้นในตอนนี้ GoldMint กำลังดำเนินเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายต่างๆซึ่งคาดว่าเมื่อสำเร็จแล้วธนาคารจะเป็นผู้รับซื้อและจ่ายเงินให้กับผู้ขายผ่านทาง Online app หรือ VISA/MASTERCARD

[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]

MNT Token

MNT Token จะเป็นเหรียญ ERC20 ที่จะถูกปล่อยออกมาใน ICO โดยมีจำนวนจำกัดที่ 10 ล้านเหรียญโดย 1 MNT จะมีราคาที่ 6-8 ดอลลาร์ อีกทั้งเหรียญ MNT จะใช้ในการยืนยันธุรกรรมแบบ Proof of stake ของ GOLD โดยผู้ถือ MNT สำหรับการยืนยันธุรกรรมจะได้รับเงิน 75% ของค่าคอมมิชชั่นของการเทรด GOLD ส่วนอีก 25% จะจ่ายเป็นค่าดูแลระบบ GoldMint ซึ่งโทเคนตรงนี้จะไม่ได้มีการถูกขุดเพิ่มได้เนื่องจากเหรียญทั้งหมดจะถูกสร้างตั้งแต่ต้นไว้แล้ว ซึ่งถ้ามีการหมุนเวียนของ GOLD ในระบบมากผู้ถือ MNT ก็จะได้ผลตอบแทนมากขึ้น โดย GoldMint จะถือโทเคน MNT 2 ล้านเหรียญและอีก 8 ล้านเหรียญจะถูกขายใน ICO ซึ่งก็ได้มีการขายไปแล้ว 3 แสน MNT ใน Pre ICO เมื่อไม่นานมานี้

CustodyBot

GoldMint ได้ออกแบบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ตัวนึงที่ชื่อว่า CustyBot อุปกรณ์ตัวนี้เป็นสเปคโตโฟโตมิเตอร์ที่เอาไว้ใช้ประเมินคุณภาพของทองคำในร้านค้าทั่วไป แล้มันจะเก็บข้อมูลทองคำชิ้นนั้นเข้าสู่ระบบ Blockchain ของ GoldMint

GoldMint จะรวบรวมทองคำจากไหน?

เครื่อง CustodyBot ของ GoldMint

GoldMint ตั้งใจจะมุ่งเป้าที่จะรวมรวมทองคำจากร้านค้าทองปลีกและร้านรับจำนำอย่าง “Blago” และ “Fianit”  (ร้านค้าทองในรัสเซีย) ซึ่งจริงๆแล้วร้านค้าเหล่านี้มีทองคำอยู่รวมแล้วกว่า 3,000 ตัน โดยจะใช้ประโยชน์จาก CustyBot ในการเก็บรวบรวมข้อมูลของคำต่างๆ

Roadmap

ในตอนเริ่มต้น GoldMint จะใช้ Ethereum Blockchain ในการดำเนินการหลังจากนั้นจะเปลี่ยนมาใช้ Graphane Blockchain ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย

และในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะมีการเปิดขาย ICO GoldMint และจะเริ่มมีการขาย GOLD ในยุโรปในช่วงไตรมาสที่สองของปี2018 ซึ่งในระหว่างนี้ทาง GoldMint ก็จะคอยจัดการประเด็นที่เกี่ยวกับกฎหมายรวมทั้งพัฒนา CustyBot ซึ่งทั้งหมดจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่สามของปี2018

[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]

สรุป

GoldMint เป็นโปรเจคใหม่ที่นำแนวคิดในการนำทองคำมาผูกกับเงินดิจิตอลเพื่อลดต้นทุนในการดูแลและแลกเปลี่ยนง่ายเหมือนเงินดิจิตอล ซึ่งแม้การนำสิ่งของต่างๆมาผูกกับเงินดิจิตอลไม่ใช่แนวคิดที่ใหม่ ราคาของทองคำอาจจะไม่ได้พุ่งขึ้นลงเหมือน Bitcoin แต่ว่าทองคำนั้นเป็นทรัพย์สินที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลก และมีประวัติยาวนานที่สุด ทำให้คนนิยมถือมันเพื่อรับประกันความเสี่ยงและเก็บเป็นทรัพย์สิน แม้จะมีข้อกังขาว่าการที่นำสิ่งของมาผูกกับเงินดิจิตอลจะทำให้มูลค่าของมันไม่โตเท่าที่ควรจะเป็น แต่ GoldMint ก็แก้ปัญหานี้ได้อย่างดีด้วยการออกโทเคนสองแบบนั้นคือ GOLD และ MNT การนำเงินดิจิตอลมาผูกกับทองคำเป็นเรื่องที่ไม่ช้าก็เร็วก็จะต้องเกิดขึ้น ซึ่งหากมันทำสำเร็จ มันน่าจะสร้างเงินหมุนเวียนในระบบจำนวนจำนวนมหาศาลและเป็นการปฏิวัติวงการทองคำเลยทีเดียว

สำหรับข้อมูล ICO นั้นปัจจุบันยังไม่มีการประกาศวันที่ขายและรายละเอียดออกมาแต่อ้างอิงข้อมูลจาก Whitepaper บอกว่า 1 MNT จะมีราคาที่ 6-8 ดอลลาร์ และพวกเขาจะประกาศวันที่ขาย ICO อีกทีในวันที่ 20 สิงหาคมที่จะถึงนี้

ซึ่งผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถลงทะเบียนรับข่าวสารเกี่ยวกับการเปิดขาย ICO ได้ที่เว็บไซต์ของ GoldMint หรือติดตามข่าวสารที่บล็อกของพวกเขา

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น