ในขณะที่ข่าว Bitcoin กับ Bitcoin Cash กำลังอยู่บนหน้าหนึ่งของสำนักข่าวสายคริโตหลายๆสำนักจนทำให้เหรียญ Ethereum ดูเหมือนจะถูกลืมไปเสียสิ้น
อย่างไรก็ตาม นักพัฒนาของ Ethereum เพิ่งจะออกมาประกาศถึงการ hard fork เวอร์ชัน Metropolis ที่จะถึงในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้
หนทางข้างหน้า
แผนโรดแมปการ hard fork ดังกล่าวที่มีผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมากนี้ถูกปล่อยออกมาเมื่อช่วงต้นปี 2017 ซึ่งมีการอธิบายถึงการอัพเกรดครั้งสำคัญที่จะมีขึ้นตามแผนการ
การประกาศดังกล่าวเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมากล่าวว่าจะมีการอัพเกรดภายใน 3-6 เดือนที่จะถึง ซึ่งในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ก็ถือการครบช่วงเวลา 6 เดือนพอดี
ในขณะที่จังหวะเวลาดังกล่าวนั้นค่อนข้างที่จะยังอยู่ไกลออกไปพอสมควร แต่การประกาศดังกล่าวน่าจะถือเป็นเรื่องดีที่ทำให้นักลงทุนและผู้ใช้งาน Ethereum ได้ทำการเตรียมตัวก่อนที่จะมีการอัพเกรดเกิดขึ้น
การอัพเกรดที่หลายๆคนรอคอย
การ hard fork ที่ว่านี้จะมีการอัพเกรดโดยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆเข้าไป
อย่างแรกคือ ทางนักพัฒนาจะทำการนำเอา ‘zk-SNARKS’ หรือ Zero-knowledge proofs ที่จะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการทำธุรกรรมมากขึ้น
อย่างที่สอง การพัฒนาและเขียนโคดโปรแกรม smart contract จะสามารถทำได้ง่ายดายมากขึ้นกว่าที่ผ่านมาๆ ซึ่งจะทำให้โปรแกรมเมอร์นั้นได้แบ่งเบาภาระในการทำงานลง รวมถึงบิลในการส่ง Ether ก็จะถูกปรับด้วยเช่นกัน
อย่างที่สาม ระบบ masking เพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยจะทำให้ผู้ใช้งานสามารถบ่งชี้ได้ว่า address ตัวไหนที่เขาถือ private key อยู่ ซึ่งระบบดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเครือข่ายอย่างมาก มากขนาดถึงที่ quantum computer ก็ไม่สามารถแฮคได้ง่าย
[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]
และท้ายสุด การอัพเกรดจะมีการนำเอาสิ่งที่เรียกว่า ‘difficult bomb’ เข้ามาติดตั้งด้วย กล่าวคือฟีเจอร์ตัวนี้จะทำให้ความยากในการขุดเหรียญ Ethereum เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
ซึ่งระเบิดดังกล่าวนั้นถูกออกแบบมาเพื่อเป็นตัวช่วยทดสอบและเปลี่ยนแปลงระบบจาก proof of work ไปเป็น proof of stake ที่หลายๆคนเรียกมันว่า “ยุคน้ำแข็งของ Ethereum” อีกด้วย
แล้วราคาล่ะ?
ณ ขณะนี้มันก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่แน่ชัดเท่าไรว่าการอัพเกรดดังกล่าวจะส่งผลต่อราคาให้ขึ้นหรือว่าลง ทว่ามีบางคนคาดว่าถ้าหากการขุดทำได้ยากขึ้นนั้น ราคาก็อาจจะตกลง
แต่อย่างไรก็ตาม บางคนก็เชื่อว่าการอัพเกรดดังกล่าวนั้นจะช่วยทำให้มีผู้ใช้งานมากขึ้นในระบบโดยรวม และอาจจะทำให้ราคาของมันพุ่งขึ้น
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น