<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

การ Hard fork ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้อาจทำให้ผู้ใช้งานใหม่ๆสูญเสีย Bitcoin

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

การรองรับ SegWit2x บนกระเป๋า Bitcoin นั้นกลายเป็นหัวข้อในการพูดคุยหลักๆของ community ผู้ใช้ Bitcoin ในตอนนี้ เพราะถ้าหากวางแผน hard fork ไม่ดีนั้น อาจทำให้ผู้ใช้งานบางคนสูญเสีย Bitcoin ได้

โดยอ้างอิงจากทีมของ Breadwallet ที่ตอบคำถามของผู้ใช้งานรายหนึ่งเกี่ยวกับการ Hard fork ของ SegWit2x ในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ พร้อมกับยกตัวอย่างให้เห็นว่าผู้ใช้งาน Bitcoin หน้าใหม่ๆที่อาจจะเจอปัญหา “ดอย” หรือถือ Bitcoin แล้วราคาตกอย่างรุนแรง

“เรารู้สึกตื่นเต้นกับ SegWit อย่างมาก” กล่าวโดยทาง Breadwallet “และเราจะขอทำให้ทุกคนแน่ใจว่าทางเราจะอัเดตกลุ่มผู้ใช้งานบ่อยๆเกี่ยวกับสถานะของ SegWit”

ซึ่งข้อความดังกล่าวดูเหมือนจะสอดคล้องกับข้อความของประธานบริษัทของ Breadwallet นาม Aaron Voisine ผู้ที่เคยเขียนไว้บน Redditว่า

“ทาง Breadwallet จะรองรับและทำตามกฎของ hashing power บนอัลกริทึม proof of work แบบดั้งเดิม เพราะฉะนั้นมันจะเป็น SegWit2x หรืออะไรก็แล้วแต่ พวกเราจะเชื่อในตัวของ Satoshi Nakamoto คนเดียวเท่านั้น”

ประโยคด้านบนนั้นน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับการที่ผู้ใช้งาน Bitcoin บน Blockchain ดั้งเดิมว่าอาจจะมีความเสี่ยงที่จะสูญเสีย Bitcoin ของพวกเขา ถ้าหาก Breadwallet เลือกที่จะสนับสนุน SegWit2x

ดังนั้นผู้ใช้งาน Bitcoin หน้าใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีความรู้เชิงเทคนิคและไม่ได้ติดตามข่าวบ่อยๆอาจส่งผลทำให้พวกเขาถูกละเลยในการ hard fork ดังกล่าวนี้ และสูญเสีย Bitcoin ของพวกเขาไปในที่สุด

“หลังจากการ Hard fork ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทาง Breadwallet อาจจะสนับสนุนธุรกรรมของ SegWit2x ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น โอกาสที่คุณจะสูญเสีย Bitcoin จากเพียงแค่การทิ้งมันไว้บนกระเป๋า Bitcoin ของ Blockchain แบบเก่านั้นมีสูงมาก” ผู้ใช้งาน Reddit รายหนึ่งถึงกับออกมาแสดงความเห็นว่า

[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]

“โอน Bitcoin ของคุณออกจาก Breadwallet ก่อนการ hard fork ซะ”

โดยสรุปหากจะอธิบายแบบง่ายๆนั้น SegWit2x ก็คือการทำการ hard fork ครั้งที่สองของ Bitcoin หลังจากครั้งแรกในกรณีของ Bitcoin Cash

ในขณะที่ผู้ใ้ชงานบางคนได้ออกมาเตือนว่าการออกมาทำแบบนี้มันเหมือนกับการ “ยึด Bitcoin มาเป็นของใครบางคน” แต่ทว่าทางนักพัฒนา Bitcoin Core ก็ได้ออกมาโต้กลับข้อกล่าวหาดังกล่าว

ภาพจาก Express VPN

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น