บริษัทด้านฟินเทคผู้ให้บริการเกี่ยวกับโซลูชันการจ่ายเงินนาม Ripple ได้ขยายสาขาเพิ่มไปที่ประเทศอินเดียแล้ว โดยออฟฟิซนั้นตั้งอยู่ในเมืองมุมไบ
บริษัทสัญชาติอเมริกันจากเมืองซานฟรานซิสโกดังกล่าวนี้ขึ้นชื่อเรื่องการชักชวนและนำเสนอระบบโอนเงินผ่านเทคโนโลยี Blockchain ให้กับธนาคารต่างๆทั่วโลกมาแล้ว โดยการขยายสาขาครั้งนี้ ทาง Ripple มองว่าประเทศอินเดียนั้นเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัว และผู้คนในประเทศส่วนใหญ่สามารถปรับตัวเข้ากับสังคมด้านดิจิตอลได้เป็นอย่างดี
โดยในการประกาศเมื่อวานนี้ ทาง Ripple ได้เผยให้เห็นถึงแผนการในการขยายสาขาออฟฟิซเข้าไปในประเมืองมุมไบเทศอินเดีย และทาบทามให้นาย Navin Gupta หรืออดีตผู้บริหารด้านธนาคารที่เต็มไปด้วยประสบการณ์การทำงานใน HSBC และ Citibank มาก่อน มาเป็นประธานของออฟฟิซในอินเดีย และช่วยบริหารงานในประเทศทั้งหมด
นาย Gupta ได้ออกมากล่าวว่า
“ประเทศอินเดียนั้นถือเป็นประเทศที่ได้รับเงินโอนจากบริษัทผู้ให้บริการด้านการโอนเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีเม็ดเงินราวๆเกือบ 71 พันล้านดอลลาร์ ส่วนระบบของ Ripple นั้นมีเทคโนโลยีมาช่วยอำนวยความสะดวกทำให้ค่าธรรมเนียมถูกลง ซึ่งจะกลายมาเป็นส่วนสำคัญในเศรษฐกิจของประเทศอินเดียได้ อีกทั้งยังทำให้ผู้ที่เข้าถึงบริการการโอนเงินได้ยาก สามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วย”
ประเทศอินเดียนั้นกำลังอยู่ในช่วงปฏิวัติวงการการเงินให้เป็นดิจิตอล โดยก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ทางรัฐบาลเคยออกมาประกาศกำจัดธนบัตร 5000 รูปี ที่ภายหลังทำให้ธนบัตรราวๆ 90% ของทั้งประเทศไม่สามารถใช้การได้ ซึ่งภายใตโครงการชื่อว่า ‘Digital India’ นั้น ทางรัฐบาลมีจุดประสงค์เพื่อที่จะให้สังคมของอินเดียเป็นสังคมไร้เงินสด และต้องการที่จะให้ประชาชนในประเทศหันมาใช้จ่ายผ่านระบบดิจิตอลกันมากขึ้น และลดการใช้เงินสดลง
เมื่อปี 2012 ทาง Ripple ได้ทำการพัฒนาระบบที่ชื่อว่า Ripple Consensus Ledger (RCL) หรือระบบ blockchain พร้อมใช้งาน เจาะกลุ่มองค์กรสถาบันด้านการเงินและธนาคารต่างๆ โดยระบบที่ว่านี้มีความเด่นในด้านการช่วยโอนเงินระหว่างประเทศ ซึ่งพวกเขายังได้พัฒนาเหรียญ XRP ออกมา โดยมีจุดประสงค์เพื่อเอาไว้ใช้ “เติมพลัง” ให้กับแพลทฟอร์ม RCL โดยเหรียญดังกล่าวปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวมบน Coinmarketcap อยู่ที่ 8.5 พันล้านดอลลาร์ และเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้ ทาง Ripple ได้ออกมาเผยให้เห็นถึงกลยุทธ์ใหม่ที่จะทำให้ blockchain ของพวกเขามีความปลอดภัยและมีความเป็น decentralized มากกว่า Bitcoin อีกทั้งพวกเขายังมีแผนที่จะนำเหรียญ XRP จำนวน 55 พันล้านเหรียญใส่เข้าไปในระบบ escrow ภายในสิ้นปีนี้อีกด้วย
[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]
ปัจจุบัน solution ของ Ripple ได้ถูกติดตั้งเข้ากับระบบของธนาคารเอกชนในประเทศอินเดียเป็นจำนวนสองธนาคารแล้ว ซึ่งก็คือธนาคาร Axis Bank และธนาคาร Yes Bank ก่อนหน้านี้ทางสยามบล็อกเชนเคยรายงานไปว่าธนาคาร Axis Bank เคยเริ่มทดสอบใช้ระบบของ Ripple ในการโอนเงินไปแล้วเมื่อช่วงปลายปี 2016 และเมื่อต้นปี 2017 นี้พวกเขาได้เผยให้ว่ากำลังนำเอาเทคโนโลยีนี้ไปใช้ช่วยโอนเงินระหว่างประเทศอีกด้วย
“ด้วยความที่ประเทศอินเดียเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เร็วที่สุดในโลก และเป็นตลาดด้านการโอนเงินระดับต้นๆของโลก ตลาดในประเทศอินเดียนั้นเป็นอะไรที่สำคัญมาก และพวกเขาก็พร้อมสำหรับนวัตกรรมด้านการจ่ายเงินนี้แล้ว” กล่าวโดย Brad Garlinghouse หรือ CEO ของ Ripple
ภาพจาก magazine.siciliaconvention
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น