Commodity (สินค้าโภคภัณฑ์) คำนี้เป็นคำที่อธิบายถึงสินค้าอะไรก็ตามที่ไม่มีความแตกต่างเป็นของทั่วไปที่พอพูดถึงแล้วคนจะนึกถึงสิ่งเดียวกัน เช่น ทอง เกลือ ซึ่งคำนี้เป็นศัพท์ที่ค่อนข้างเก่าและใช้ในสมัยก่อนแต่ Commodity ในยุคของ Cryptocurrency มันกลายเป็นสิ่งที่มาแรงเป็นกระแสจนหยุดไม่ได้
โดยสินค้าโภคภัณฑ์นั้น หลักๆแล้วจะถูกแบ่งออกเป็นสามหมวดหมู่ย่อยๆ ได้แก่
- กลุ่มโลหะและอัญมณี เช่น ทองคำ เพชร พลอย เหล็ก เงิน ทองแดง อลูมิเนียม นิกเกิล ฯลฯ
- กลุ่มสินค้าเกษตร เช่น ยางพารา ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด ถั่วเหลือง น้ำตาล เนื้อสัตว์ ฯลฯ
- กลุ่มพลังงาน เช่น น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียมต่างๆ
ในปี 2017 การซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าโภคภัณฑ์อย่างโลหะหรืออัญมณีที่มีค่า ได้กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง แต่คราวนี้มันเป็นกระแสให้กับใครก็ตามที่ถือ Bitcoin
เนื่องจากสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่จะมาจากธรรมชาติ โลหะ พลังงาน หรืออาหาร และคราวนี้มันได้ถูกนำมาผูกมูลค่ากับเงินดิจิตอล เช่นทองคำที่สามารถนำมาผูกมูลค่ากับเงินดิจิตอลได้อย่างดี
มูลค่าของทองคำนั้นจะมีราคาที่ผันผวนน้อย ซึ้งแม้ว่ามันจะมีคุณสมบัติที่ตรงกันข้ามกับ Bitcoin ที่มีราคาที่ผันผวนได้มากในระยะสั้นๆ แต่ปัจจุบันมันก็ยังเป็นหลักประกันให้กับเงินสกุลทั่วไปที่ใช้ในปัจจุบัน
“คนทั่วไปนั้นนิยมที่จะถือหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงและรับประกันจากทองคำ เนื่องจากเงินสกุลท้องถิ่นนั้นมักจะมีมูลค่าลดลงโดยนำไปเทียบกับค่าเงินดอลลาห์ ซึ่งการใช้เทคโนโลยี Blockchain จะทำให้ระบบการซื้อขายนั้นโปรงใสสำหรับคนทุกคน”
กล่าวโดยนาย Dmitry Pluschevsky หรือ CEO ของ GoldMint
มันถูกรับรองโดยทองคำ
จากการเติบโตของวงการ Cryptocurrency ทำให้ startup มากมายที่มีความคิดที่ในการนำเอาเงินดิจิตอลมาผูกกับโลหะมีค่าในการดึงดูดนักลงทุนแทนที่จะใช้ตัวแทนจำหน่ายหรือโบรคเกอร์
GoldMint เป็นบริษัทที่กำลังมีจุดยืนในตลาดนี้โดยการทำการตลาดร่วมกับร้านรับจำนำและร้านค้าทองและอัญมณีรายย่อย โดยนำเสนอรูปวิธีการเก็บรักษาแะแลกเปลี่ยนทองคำโดยนำมันมาผูกกับเงินดิจิตอลที่ชื่อว่า GOLD
ระบบนี้จะพยายามนำขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับคนออกไปเพื่อทำให้มันมีความโปรงใสและถูกต้องโดยใช้ พลังของเทคโนโลยี Blockchain ร่วมกับเครื่องมือที่ชื่อว่า CustyBot ที่จะเก็บบันทึกข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ในทุกขั้นตอน
โดยเครื่อง CustyBot นี้จะทำให้ร้านค้าต่างๆ สามารถตรวจสอบมูลค่าของทองคำได้โดยปราศจาก นายหน้า ตัวแทน องกรณ์ หรือบุคคลที่สาม โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Blockchain ในการเก็บข้อมูล
[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]
“เราคิดว่าการตรวจสอบมูลค่าของสินค้าโภคภัณฑ์ (commodity) ที่เป็นสิ่งรองรับโทเคนนั้นเป็นเรื่องสำคัญมาก”
กล่าวโดย CTO Konstantin Pichugin
โดยเขายังเสริมอีกว่า
“ลองจินตนาการดูว่าถ้ามันไม่มีวิธีการตรวจสอบมูลค่าของสินค้าหรือของชิ้นนั้น นั้นหมายความว่าจะไม่มีใครเข้าใจได้เลยว่าจริงๆแล้วสินค้าโภคภัณฑ์ (commodity) ที่เรามีนั้นมีมูลค่าเท่าไหร่ นั้นหมายความว่าจะไม่มีใครเชื่อถือในตัวของพวกเรา เช่นเงินดิจิตอลสกุล USDT ซึ่งถูกใช้เฉพาะคนที่สามารถรับความเสี่ยงที่สูงได้”
การนำเงินดิจิตอลมาผูกกับสินค้าโภคภัณฑ์
คอนเซปการนำเงินดิจิตอลมาผูกกับสินค้าโภคภัณฑ์นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ ผู้ใช้ Bitcoin นั้นได้ใช้เงินดิจิตอลในการซื้อทองคำหรือเเม้กระทั้งซื้อสินค้าที่จับต้องได้โดยตัดตัวกลางอย่างธนาคารทิ้งไป
MNT Token จะเป็นเหรียญ ERC20 ที่จะถูกปล่อยออกมาใน ICO โดยมีจำนวนจำกัดที่ 10 ล้านเหรียญโดย 1 MNT จะมีราคาที่ 6-8 ดอลลาร์ อีกทั้งเหรียญ MNT จะใช้ในการยืนยันธุรกรรมแบบ Proof of stake ของ GOLD โดยผู้ถือ MNT สำหรับการยืนยันธุรกรรมจะได้รับเงิน 75% ของค่าคอมมิชชั่นของการเทรด GOLD ส่วนอีก 25% จะจ่ายเป็นค่าดูแลระบบ GoldMint ซึ่งโทเคนตรงนี้จะไม่ได้มีการถูกขุดเพิ่มได้เนื่องจากเหรียญทั้งหมดจะถูกสร้างตั้งแต่ต้นไว้แล้ว ซึ่งถ้ามีการหมุนเวียนของ GOLD ในระบบมากผู้ถือ MNT ก็จะได้ผลตอบแทนมากขึ้น โดย GoldMint จะถือโทเคน MNT 2 ล้านเหรียญและอีก 8 ล้านเหรียญจะถูกขายใน ICO ซึ่งก็ได้มีการขายไปแล้ว 3 แสน MNT ใน Pre ICO เมื่อไม่นานมานี้
Goldmint ใช้วิธีเดียวกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์แบบเก่าๆ โดยการใช้ ETFs หรือกองทุนเปิดในการอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน
การใช้เทคโนโลยีเป็นอะไรที่ค่อนข้างใหม่และ GoldMint ก็ได้ก้าวไปอีกขั้นด้วยการนำ CustyBot มาเก็บข้อมูลทำให้ GoldMint กลายเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในวงการนี้
“เงินดิจิตอล GOLD เหมาะที่จะเป็นสินทรัพย์ที่เป็นเครื่องมือในการลดความเสี่ยงได้” Pluschevsky กล่าว และเขายังเสริมอีกว่า
“ในขณะที่เงินดิจิตอลทั้งหลายมีความผันผวนที่สูงมาก GOLD จะเป็นเงินดิจิตอลที่ถูกรองรับด้วยทองคำและกองทุน ETFs จะมีความผันผวนที่ต่ำมาก”
แม้ว่าโปรเจค GoldMint จะอยู่ในระหว่างพัฒนาแต่ ICO นั้นจะประกาศขายในวันที่ 20 กันยายนที่จะถึงนี้ และจะเป็นการเปิดตัวของ GoldMint ในเวทีโลกรวมถึงการประกาศ Roadmap ของการระดมทุนในไม่กี่ปีถัดไป โดยผู้ลงทุนในช่วงแรกจะได้ Early Bord โบนัสโทเคนในช่วงต้อนของการระดมทุนอีกด้วย
โดยผู้ที่สนใจ ICO ของ GoldMint สามารถที่จะเข้าไปแจ้งอีเมล์เพื่อขอสมัครได้บนเว็บของพวกเขา หรือสามารถที่จะติดตามข่าวสารและรายละเอียดเกี่ยวกับโปรเจคดังกล่าวได้บน Blog ของพวกเขา
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น