ในขณะที่ราคาของ Bitcoin กำลังพุ่งขึ้นทะลุจุด all-time-high (ATH) แห่งใหม่ที่ 7,000 ดอลลาร์นั้น ข่าวลือเรื่องการ pull back ของราคาหรือแม้กระทั่งฟองสบู่ก็เริ่มแพร่สะพัดออกไปเรื่อยๆ นักวิเคราะห์รายหนึ่งได้ออกมาทำนายว่าราคานั้นจะกลับไปที่ 5,000 ดอลลาร์อีกครั้ง
แม้ว่าราคาของราชาแห่งเหรียญคริปโตดังกล่าวจะทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องในชนิดที่เรียกได้ว่ารายวัน แต่ทว่าผลกระทบของ SegWit2x นั้นจะทำให้ราคาเกิดการ correction ครั้งยิ่งใหญ่ “ไม่ว่าราคาของมันจะสูงแค่ไหนก็ตาม” กล่าวโดยนาย Tone Vays
ก่อนหน้านี้นาย Vays ได้ออกมาแก้ไขการวิเคราะห์ของราคา Bitcoin ในระยะสั้นของเขาเมื่อวานนี้ โดยบอกว่า “ความเสียหายนั้นได้เกิดขึ้นไปแล้ว” จากการ hard fork ที่จะถึงในเร็วๆนี้
“ไม่ว่าราคาของมันจะพุ่งไปสูงขนาดไหนก่อนการ hard fork ของ SegWit2x แต่ความเสียหายโดยพวกกลุ่มผู้ไม่หวังดีเหล่านี้ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นผมคาดว่าราคาของมันจะร่วงลงมาถึง 5,000 ดอลลาร์” กล่าวโดยนาย Vays
No matter how high we get before #SegWit2X HF, the damage by these bad actors has been done! So I’m expecting a crash to $5,000 either way
— Tone Vays [#NO2X] (@ToneVays) November 2, 2017
ก่อนหน้านี้นาย Vays เคยออกมาทำนายว่าราคาของ Bitcoin จะพุ่งขึ้นไปถึง 6,900 ภายในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ แต่ความคาดหวังของเขากลับถูกเร่งให้เร็วขึ้นด้วยการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่ม CME Group แห่ง Wall Street ในการเปิดตัวกระดานเทรดเหรียญ Bitcoin Futures ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายปีนี้
การ hard fork ของ SegWit2x จะเกิดขึ้นประมาณวันที่ 18 พฤศจิกายน โดยในขณะที่กำลังรายงานข่าวอยู่นี้ เหรียญ hard fork ดังกล่าวได้ถูกซื้อขายอยู่บนสัญญา futures โดยมีราคาที่พุ่งไปแล้วถึง 1,184 ดอลลาร์จากราคาเปิดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ 810 ดอลลาร์ อ้างอิงจาก Coinmarketcap
[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่นั้น ไม่สามารถมีใครรู้ได้ แต่ในขณะนี้ราคาของ Bitcoin ในตลาดของประเทศเวเนซุเอล่าได้แซงหน้าตลาดโลกไปที่ 12,000 ดอลลาร์แล้ว สาเหตุมาจากปัญหาการขาดแคลนเงินดอลลาร์ และภาวะเงินเฟ้อในประเทศ
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น