Bitcoin Cash ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จในการ Hard Fork ตามที่ได้วางแผนไว้
ณ เวลาปัจจุบัน เครือข่าย Node ส่วนใหญ่ (ประมาณ 82%) ได้เปลี่ยนไปใช้ซอฟต์แวร์ตัวใหม่แล้ว (0.16.0 หรือใหม่กว่า) ซึ่งจะมุ่งเน้นในการให้ผลตอบแทนกับ Protocol และทำให้การขุดเหรียญมีความปลอดภัยมากขึ้นในระบบ Blockchain
ในวันที่มีการ Hard Fork ของ Bitcoin Cash เหมือนจะมีการเปลี่ยน Protocol ของ algorithm ในการขุดเหรียญซึ่งจะช่วยให้ปรับความยากในการขุดในการสร้าง block ใหม่ทุกๆ 600 วินาที
จากการ Hard Fork ตัว Bitcoin ในเดือนสิงหาคม ทำให้เกิด Cryptocurrency ตัวใหม่ซึ่งก็คือ Bitcoin Cash โดยเพิ่มขนาด Block เป็น 8 MB ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก Bitcoin ที่มีขนาดแค่ 1 MB เท่านั้น
อัพเกรดได้อย่างราบรื่น
แต่หลายคนก็คิดว่าการอัพเกรดนี้จะผ่านไปอย่างราบรื่น…
นาย Haipo Yang และนาย Jiang Zhuoer ผู้ให้บริการ Pool ขุดเหรียญรายใหญ่ 2 รายบอกว่า พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าจะมีการโต้แย้งกันในการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้
นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการทำ algorithm ของการขุดเหรียญ ซึ่งทำให้พวกเขารับรู้ว่า มีการผันผวนอยู่ตลอดเวลา นักพัฒนาซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย
จาก Blog ที่ระบุว่า การ Hard Fork และการอัปเดตซอฟต์แวร์นั้นมีปัญหาเพราะว่า “มีการป้องกันในการ Confirmation ที่รวดเร็วสำหรับผู้ใช้และมีการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนการออกเหรียญอย่างฉับพลัน”
นาย Juan Garavaglia นักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ทำงานในส่วนของการ Hard Fork ระบุว่ามันประสบความสำเร็จ โดยการมองโลกในแง่ดีว่าระบบของ Bitcoin Cash จะได้รับการอัปเดต
เงินสดและการพกพา
การอัพเกรดซอฟต์แวร์ จะเป็นผลดีต่อ Bitcoin Cash
และผู้ที่สนับสนุน Protocol ของ Bitcoin Cash นี้ก็ยังสนับสนุนการระงับ Hard Fork ของ Segwit2x อีกด้วย และวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาการเพิ่มมูลค่าของ Bitcoin Cash ก็ได้ทะลุ 2,000 ดอลลาร์ ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์
นาย Yimo Cheng นักบัญชีจากประเทศจีน ผู้ที่ได้ขุดเหรียญ Bitcoin จากบ้านของเขากล่าวว่า เขายังไม่ได้เริ่มขุดเหรียญ Bitcoin Cash
และในขณะที่เขาเชื่อว่า Bitcoin มีความเป็น “นานาชาติมากขึ้น” ในท้ายสุดเขากล่าวว่า เขาจะติดตามความเคลื่อนไหวของนักพัฒนาระบบ Blockchains ทั้งสองคน
เขากล่าวว่า:
“เขาจะให้ความสำคัญกับมันไปสักพักหนึ่ง”
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น