ในการประกาศที่ทำให้แต่ละคนต้องตกตะลึงเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อการ hard fork ของ SegWit2x ได้ถูกปลุกให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง และมีการตั้งวันที่ ๆ จะเปิดใช้งานอย่างแน่นอนซึ่งก็คือในวันที่ 28 ธันวาคม หรือวันนี้
SegWit2x กลับขึ้นมาจากหลุ่มศพ
ตามที่ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไปเมื่อก่อนหน้านี้ ว่าโปรเจ็คอัพเกรด SegWit2x นั้นต้องการที่จะเพิ่มขนาดบล็อกให้เป็น 2MB เพื่อแก้ไขความล่าช้าในการทำธุรกรรมของ Bitcoin และช่วย scale ให้ขนาด network ของเหรียญดังกล่าวใหญ่ขึ้น สามารถรองรับจำนวนธุรกรรมได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าข้อเสนอดังกล่าวจะมีบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Digital Currency Group, Coinbase, ShapeShift, และ Xapo มาช่วยหนุนหลังไว้ แต่มันก็ยังล้มเหลวอยู่ดี เมื่อทางทีมนักพัฒนาประกาศยกเลิกการ hard fork ไปแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการตอกฝาตะปูโลงให้กับ SegWit2x
จนกระทั่งมาถึงตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว กลุ่มนักพัฒนาก็ได้ออกมากล่าวว่าพวกเขาจะฟื้นคืนชีพ SegWit2x ขึ้นมา โดยอ้างว่าค่าธรรมเนียมธุรกรรมของ Bitcoin นั้นทำให้มันเป็นเรื่องที่ “แทบจะเป็นไปไม่ได้ในการใช้ Bitcoin สำหรับการจ่ายเงิน” จนทำให้พวกเขาต้องทำการ hard fork ในวันนี้
ภายหลังจากการประกาศนั้น ราคาฟิวเจอร์ของเหรียญ SegWit2x ก็ได้พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง โดยทำการซื้อขายที่ราคาสูงกว่า 1,100 ดอลลาร์ จากจุดต่ำสุดที่ระดับประมาณ 200-300 ดอลลาร์
เหรียญ Altcoin ที่ปลอมตัวมาและอ้างชื่อ Bitcoin?
อย่างไรก็ตาม หากลองมองและพิจารณาดูให้ดีนั้นจะพบว่าโปรเจ็ค SegWit2x (B2X) เผยให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้มีความปราถนาที่จะอัพเกรดโพรโตคอลของ Bitcoin แต่อย่างใด แต่ตั้งใจที่จะสร้าง altcoin ตัวใหม่ และเกาะชื่อแบรนด์ของ Bitcoin เพื่อนำมันออกมาขาย
ยกตัวอย่างขั้นแรกสุด โครงการนี้มีความแตกต่างจาก SegWit2x ในตอนต้นอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากกลุ่มทีมนักพัฒนาในตอนแรกนั้นคือทีมของนาย Jeff Garzik หรืออดีตนักพัฒนา Bitcoin Core
ยิ่งไปกว่านั้น นักพัฒนากำลังติดตั้งระบบ replay protection และโครงสร้าง address แบบพิเศษ ซึ่งทั้งสองมีนัยว่า B2X นั้นไม่ใช่ Bitcoin ซึ่งถือเป็นจุดยืนที่แตกต่างจากของนักพัฒนา SegWit2x หลักเมื่อก่อนหน้านี้
นอกจากนี้เหรียญ B2X จะมีการ premine หรือขุดมาก่อนที่จะเปิดตัว โดยอ้างอิงจากเว็บไซต์ของพวกเขานั้น นักพัฒนาจะทำการยึดเหรียญที่จะมีการทำ airdrop จากกระเป๋าของ Satoshi Nakamoto ทั้งหมดมาเป็นของตนเอง โดยทางนักพัฒนาอ้างว่าจำนวนเหรียญที่ยึดมาเหล่านี้จะถูกแจกจ่ายไปให้กับ “ใครก็ตามที่สนับสนุนเครือข่าย” แต่รายละเอียดปลีกย่อยนั้นก็ยังน้อยอยู่
และท้ายสุด โพรโตคอลของ SegWit2x จะมีสเป๊กที่แตกต่างจากของ Bitcoin โดยสิ้นเชิง โดยเครือข่ายจะใช้ระบบอัลกอริทึ่ม X11 ซึ่งจะไม่ใช่ SHA-256 เหมือนกับ Bitcoin และมันจะมีระยะเวลาเกิดบล็อกใหม่ที่ 2.5 นาที แตกต่างจากของ Bitcoin ที่ใช้เวลา 10 นาที นอกจากนี้ค่าความยากจะถูกคำนวณใหม่ในทุก ๆ บล็อก และเว็บไซต์ของพวกเขายังได้มีการโฆษณา zkSNARKS หรือเทคโนโลยีที่จะถูกติดตั้งเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมแบบไร้ตัวตนได้ บางทีจุดที่น่าสนใจมากที่สุดก็คือ เหรียญดังกล่าวจะเพิ่มขนาดบล็อกจาก 2MB ตามที่ SegWit2x เคยกำหนดไว้ ไปเป็น 4MB
ผู้ลงทุนที่กำลังคิดจะซื้อเหรียญดังกล่าวควรที่จะมีความระมัดระวังและไตร่ตรองถึงความโปร่งใสในจุดนี้ให้ดีก่อนเสมอ
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น