แม้ว่าในขณะนี้ ผู้คนจำนวนมากเห็นเทคโนโลยี Lightning Network เป็นความหวังสำคัญสำหรับการแก้ไขปัญหา scaling ของ Bitcoin กันแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่มีความแน่ชัดนักว่าตกลงแล้วบรรดาพวกนักพัฒนาต่างๆได้ลงมือทำความฝันนี้ให้เป็นจริงบ้างแล้วหรือยัง
Elizabeth Stark ผู้เป็น CEO ของ Lightning Labs ได้กล่าวว่าในขณะนี้อาจมีนักพัฒนาเต็มเวลาไม่ถึง 10 คนที่ให้ความสนใจกับการนำเทคโนโลยีตัวนี้มาปฏิบัติใช้จริงๆ ซึ่งนี่ก็ทำให้การเปิดตัวระบบเครือข่ายนี้ให้ทุกๆคนได้ใช้กันต้องล่าช้าไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ท่ามกลางสภาพการใช้ที่ไม่ค่อยคึกคื้นแบบนี้ กลุ่มมหาวิทยาลัยที่รวบรวมสมาชิกจากมหาวิทยาลัย 26 แห่งนามว่า “BSafe network” จัดงานแข่งขันเพื่อเป็นการชักจูงให้ผู้คนหันมาวิเคราะห์เทคโนโลยี layer-two ให้มากขึ้น โดยเฉพาะ Lightning
แม้ยังไม่มีการประกาศว่าผู้ชนะเลิศจะได้รับรางวัลอะไร งานแข่งขันนี้มุ่งที่จะให้วิศวะ นักศึกษา รวมถึง อาจารย์มหาวิทยาลัยทำการตรวจสอบความปลอดภัยและก็ตรวจสอบระบบความเป็นส่วนตัวของเครือข่ายและทำการ “รวบรวม attack models” ที่พวกกลุ่มผู้ไม่หวังดีอาจจะนำมาใช้สร้างความปั่นป่วนต่อการชำระเงินผ่านระบบ Lightning Network ระบบเทคโนโลยีที่ถูกกล่าวขานว่าจะเป็นทางออกสำหรับการ scale Bitcoin รวมถึงมีแนวโน้มสูงที่จะสามารถลดค่าธรรมเนียมได้
การกระตุ้นส่งเสริมให้มีการพินิจพิเคราะห์ระบบ Lightning อย่างละเอียดถี่ถ้วนขึ้นได้เริ่มตอนที่ผู้ใช้รวมถึงนักพัฒนาต่างรอคอยอย่างใจจดใจจ่อที่จะได้เห็น Lightning เปิดตัวจริงๆสักที
แม้เหล่าผู้พัฒนา Lightning Network ได้แนะนำให้ผู้ใช้ลองนำ ‘เหรียญซ้อม’ ไปทดสอบบน testnet ก่อน แต่ผู้ใช้และนักพัฒนาบางคนที่มีความสนใจอย่างมากก็ได้นำ Bitcoin จริงๆไปลงเล่นกับเทคโนโลยีตัวนี้บ้างแล้ว นักทดลองที่แสนห้าวหาญบางคนยังเคยได้สูญเสียเงินไปหน่อยบ้างในกระบวนการนี้อีกด้วย บริษัทบางแห่ง เช่นบริษัทผู้ให้บริการ VPN TorGuard ก็ยังเปิดรับการชำระผ่าน Lightning Network แล้วด้วยเช่นกัน
งานแข่งขันนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากงานแข่งขันครั้งก่อนๆ ที่ได้ประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นงานเกี่ยวกับการยกระดับมาตรฐานในการเข้ารหัสข้อมูล (cryptography) ที่ถูกใช้ในระบบอินเตอร์เน็ตโดยทั่วไปเพื่อที่จะสร้างความปลอดภัยให้กับตัวข้อมูลต่างๆ ดังเช่น AES และ SHA-3 นาย Shin’ichiro Matsuo ผู้ร่วมก่อตั้ง BSafe.network และกิตติเมธี (research professor) ในมหาวิทยาลัย Georgetown ได้กล่าวไว้
และเขากล่าวต่อไปว่าระบบเครือข่ายโลกจำลอง (global test network) ของ BSafe ซึ่งได้รับความช่วยเหลือและการสนับสนุนโดยมหาวิทยาลัยต่างๆ จะถูกใช้งานในฐานะแหล่ง “องค์ความรู้ด้านงานวิจัยที่เป็นกลาง” (neutral research body) และจะถูกนำมาใช้วิเคราะห์ตรวจสอบผลงานของผู้แข่งต่างๆส่งผลงานมาเกี่ยวกับข้อมูลว่าด้วยผลลัพธ์จากการนำตัว Lightning Network ไปใช้ทดสอบในสถานการณ์จริง (battle-testing)
Matsuo ได้กล่าวกับ CoinDesk ไว้ว่า:
“พวกเราคิดว่าการแข่งขันครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมให้ระบบ Lightning Network ดีขึ้นในหลายประการ”
ทุกคนสามารถส่งงานไปได้จนถึงเดือนมีนาคม หลังจากที่ได้รวบรวมข้อเสนอทั้งหมดแล้วเรียบร้อย ทางมหาวิทยาลัยก็จะทดสอบพวกมันทั้งหมดบนระบบเครือข่ายโลกจำลอง (global test network) ของ BSafe และการแข่งขันก็จะลงเอยในสถานที่งานประชุมตอนเดือนสิงหาคม ซึ่งก็จะมีการประกาศชื่อของผู้ชนะเลิศ
เพื่อความกระจ่าง
Matsuo ยังได้กล่าวว่าเขาหวังว่าข้อเสนอต่างๆ จะทำให้ทุกคนได้เห็นถึงความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของเทคโนโลยีนี้ รวมถึงจะได้เห็นอย่างแจ่มแจ้งขึ้นถึงวิธีการปฏิสัมพันธ์ของมันกับ “layer one” ของ Cryptocurrency
เพราะยังไม่มีใครรู้ว่าเทคโนโลยีนี้ตกลงแล้วจะถูกใช้หรือประยุกต์ใช้ในขนาดมวลมากอย่างไร งานแข่งขันจึงสามารถที่จะเป็นตัวช่วยตัวหนึ่งได้ ด้วยการเปิดรับต่อข้อเสนอจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งก็จะได้รับการวิเคราะห์โดยนักวิชาการจากประเทศและสาขาวิชาต่างๆ Matsuo เชื่อว่าบรรยากาศแห่งการแข่งขันจะช่วยทำให้มีความกระจ่างชัดขึ้นมาถึงข้อดีและข้อเสียต่างๆ
เทคโนโลยี Layer-two เช่น Lightning Network นั้นจำเป็นสำหรับการยกระดับ Scalability ในการชำระผ่าน Bitcoin Blockchain แต่พวกเขาอาจจะเปลี่ยนแปลง “model แห่งความเชื่อถือ (trust)” ซึ่งก็หมายความว่า Lightning Network อาจจะไม่ Decentralized โดยสิ้นเชิง 100%
เพราะอย่างนี้ เทคโนโลยีนี้จึงได้รับเสียงติวิจารณ์ด้วยเช่นกัน ซึ่งข้อโต้เถียงที่ถูกใช้มากที่สุดกล่าวอ้างว่ามันจะไม่ Decentralized เลยในทางปฏิบัติ
การแข่งขันนี้จึงเป็นการพยายามค้นคว้าและศึกษามุมมองต่างๆเกี่ยวกับจุดแข็งและจุดอ่อนต่างๆ ของ Lightning Network
การแข่งขันแบบเปิด
หลังจากที่การแข่งขันได้เสร็จสิ้นและมีการตัดสินเรียบร้อย BSafe.network วางแผนที่จะ “เปิดเผยผลวิเคราะห์ทั้งหมด” และเปิดเผยรหัสทั้งหมดให้เป็น open-source เพื่อที่จะให้ชาว Bitcoin ได้ศึกษาและเรียนรู้จากผลลัพธ์
แต่นอกเหนือจากการปรับปรุง Lightning Network แล้ว Matsuo ยังหวังว่า BSafe.network จะสร้างผลกระทบอย่างวงกว้างขึ้นให้แก่อุตสาหกรรม Bitcoin และ Blockchain
Matsuo อยากให้งานแข่งขันนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นที่จะมีการแข่งอีกหลายครั้งนับไม่ถ้วนตามมา และต้องการจะขยายเครือข่ายมหาวิทยาลัยในกลุ่ม เพื่อให้การเข้าถึงนั้นหลากหลายยิ่งขึ้นไปอีก
“ด้วยมหาวิทยาลัยกว่า 26 แห่ง การจัดงานแข่งขันแบบเปิดนี้จะทำให้เราได้เห็นผลลัพธ์ที่เป็นกลาง เพื่อที่จะได้ทำการเปรียบเทียบเทคโนโลยีชนิดนี้” เขากล่าว
และถ้าทางกลุ่มสามารถโน้มน้าวให้ชุมชนได้เห็นถึงความเป็นกลาง (neutrality) ของมันในวงกว้างมากขึ้นได้ Matsuo ก็หวังว่าผู้คนที่เคยได้ทำการโต้แย้งอย่างรุนแรง (เช่นในเรื่องของขนาด block) ในชุมชนสามารถที่จะเพิ่ง BSafe เพื่อคำแนะนำปรึกษาต่างๆที่ได้มาจากการทดลอง ในความคิดของ Matsuo แล้ว การโจมตีทางวาจาหลายๆครั้งก็เกิดขึ้นมาจากการโต้แย้ง ซึ่งการโจมตีก็ยังทวีคูณจาก “ปัญหาการสื่อสาร” BSafe.network สามารถที่จะขับเคลื่อนให้มันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นผ่านการทำวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical analysis)
เขาได้สรุปว่า:
“เราได้สร้างสิ่งนี้สำหรับระบบการเข้ารหัสข้อมูล (cryptography) ไปแล้ว แต่สำหรับ Bitcoin และ Blockchain พวกเราต้องมีวิธีวิเคราะห์ตัวเทคโนโลยีที่เป็นกลางกว่านี้”
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น