<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ JPMorgan ยอมรับ Cryptocurrency จะมาแทนที่ธนาคาร

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ธนาคาร JPMorgan Chase หรือธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ได้ออกมายอมรับอย่างเป็นทางการว่า cryptocurrency และเทคโนโลยี blockchain นั้นจะสามารถมาแทนที่ธนาคารได้

JPMorgan ยอมรับคริปโตจะมาแทนที่ธนาคาร

ธนาคารดังกล่าวได้ออกมากล่าวยอมรับในรายงานประจำปีของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะส่งรายงานให้กับทาง ก.ล.ต. สหรัฐฯ

เอกสารจำนวนกว่า 301 หน้าดังกล่าวของ JPMorgan เผยถึงการประมาณการของ cryptocurrency ทั้งหมดที่ถูกลิสไว้ ว่าจะมีแนวโน้มที่จะสามารถมา disrupt สถาบันการเงินได้ และรวมถึงผู้ให้บริการด้านการจ่ายเงินด้วย โดยมีใจความว่า

“ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสถาบันการเงินและคู่แข่งที่ไม่ใช่ธนาคารจะต้องเจอกับความเสี่ยงที่ว่าผู้ให้บริการด้านการจ่ายเงินนี้อาจจะถูก disrupt โดยเทคโนโลยีดังเหล่านี้ อย่างเช่น cryptocurrency ที่ไม่จำเป็นต้องมีตัวกลาง” และยังเขียนต่อว่าอีกว่า “เทคโนโลยีใหม่นี้จำเป็นต้องให้ JPMorgan ใช้เวลาในการปรับปรุง หรือปรับผลิตภัณฑ์เพื่อดึงดูดลูกค้าให้คงอยู่ หรือทำสินค้าและบริการให้เหมือนกับของคู่แข่ง รวมทั้งบริษัทด้านเทคโนโลยีด้วย”

ที่สำคัญ รายงานดังกล่าวยังถูกเซ็นโดยนาย Jamie Dimon หรือ CEO ของ JPMorgan หรือคนที่ในวงการคริปโตรู้จักดีว่าเคยออกมากล่าวว่า Bitcoin นั้นคือ “สิ่งหลอกลวง” อีกทั้งยังขู่พนักงานบริษัทว่าจะไล่พวกเขาออกหากพบว่าเทรดเหรียญ cryptocurrency อีกด้วย แม้ว่าเขาจะออกมาสำนึกผิดในภายหลังก็ตาม

เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก

JPMorgan นั้นกลายเป็นธนาคารใหญ่แห่งที่สามที่ออกมากล่าว่า cryptocurrency นั้นมีความเสี่ยงต่อธุรกิจในรายงานประจำปี 2017

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วธนาคาร Bank of America หรือธนาคารที่ใหญ่อันดับสองของสหรัฐฯ ก็ออกมากล่าวว่า cryptocurrency และเทคโนโลยี blockchain นั้นมีความเสี่ยงต่อโมเดลธุรกิจของพวกเขา อีกทั้งยังกล่าวเสริมว่าทางธนาคารกลัวว่าระบบการป้องกันการฟอกเงินจะต้องได้รับการแก้ไขไหมเพื่อให้รองรับ crptocurrency

ที่น่าสนใจคือทั้ง JPMorgan และ Bank of America ต่างก็ชี้ว่าการปรับตัวใช้ cryptocurrency ที่มากขึ้นอาจบังคับให้พวกเขาต้องใช้งบประมาณมากขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ด้านการเงินของพวกเขาจะอยู่รอด

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น