CEO ของ Ripple ประกาศกลยุทธ์การลงทุนในสตาร์ทอัพ
XRP นั้นตามหลังแค่เพียง Bitcoin และ Ethereum ในด้านของ Market Cap ซึ่งในขณะที่เขียนอยู่นี้มีมูลค่าถึง 30,473,392,103 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเทียบเท่ากับครึ่งหนึ่งของ Ethereum หรือหนึ่งส่วนห้าของ Bitcoin โดย Market Cap ของ Ripple นั้นเคยขึ้นไปถึงจุดสูงสุดที่ 128,000,000,000 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงปลายปี 2017 แต่ในเวลาต่อมาก็ร่วงลงตามกระแสตลาดขาลง และยังถูกวิจารณ์ว่าเป็นเหรียญที่ไม่ค่อยถูกนำไปใช้งาน โดยมีเพียงผู้ให้บริการการชำระเงินข้ามประเทศที่นำเหรียญไปใช้จริงเท่านั้น
นาย Brad Garlinghouse ผู้เป็น CEO ของ Ripple ได้กล่าวกับทางสำนักข่าว TechCrunch ภายในงาน Money2020 ที่สิงคโปร์ว่า:
“พวกเรา Ripple จะมุ่งเน้นในการแก้ไขปัญหาการใช้งานของกลุ่มสถาบันต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม พวกเราก็พร้อมที่จะเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทที่ต้องการจะนำ XRP มาใช้ในหลากหลายด้านอย่างแน่นอน”
ซึ่งนี่ก็ไม่ได้เป็นแค่เพียงคำพูดลอย ๆ เพราะทาง Ripple และผู้บริหาร 2 ท่านได้ทำการลงทุนจำนวน 25,000,000 ดอลลาร์ใน Omni ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพในซานฟรานซิสโกที่ให้บริการด้านการจัดเก็บและเช่าพื้นที่สำหรับสินค้า โดย Omni กำลังจะเพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้บริการสามารถชำระค่าบริการด้วยเหรียญ XRP “และมันจะมีอย่างนี้เพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ” นาย Garlinghouse กล่าวเพิ่มเติม
Garlinghouse เชื่อว่าธนาคารจะรองรับ Ripple ในที่สุด
ทาง CEO ของ Ripple เผยว่าเขาไม่ได้กังวลเรื่องการใช้งานเหรียญของธนาคารต่าง ๆ ที่มีไม่มากนัก เพราะเขาเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงจะต้องใช้เวลาอยู่พอสมควรแต่มันย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน โดยเขาได้ยกกรณีของบริษัทด้าน VoIP (การสื่อสารทางเสียงผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต) นามว่า DialPad ที่เขาได้ก่อตั้งขึ้น ซึ่งประธานบริษัท AT&T Randall Stephenson เคยกล่าวว่ามันจะไม่มีวันประสบความสำเร็จ แต่ต่อมาบริษัทก็ได้ถูกซื้อโดย Yahoo และกลายเป็นมาตรฐานให้แก่บริษัทอื่น ๆ ในที่สุด
ทาง Ripple ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดในเรื่องของการล้มเหลวในการชักชวนให้ธนาคารต่าง ๆ มาใช้ XRP แม้พวกเขาจะมีฐานลูกค้าเป็นผู้ให้บริการส่งเงินข้ามพรมแดนที่กำลังทดลองใช้ XRP เป็นหนึ่งในสกุลเงินที่สามารถใช้ในการชำระเงินได้
บนเวที Money2020 นาย Garlinghouse ได้ปัดข่าวเกี่ยวกับความกังวลเรื่องการผันผวนของราคา XRP ที่อาจส่งผลต่อบริการการชำระเงิน โดยเขาเรียกข่าวเหล่านี้เป็น “ข่าวปลอม” ซึ่งเป็นวลีที่ท่านประธานาธิบดีสหรัฐฯ Trump มักจะใช้อยู่เป็นประจำ ทั้งนี้เขาได้อ้างว่าการขึ้นลงของราคาเงินคริปโตนั้นไม่ได้ส่งผลต่อการขายโดยตรงเพราะการชำระเงินใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น