<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

แบงค์ชาติริเริ่มกลุ่ม Thailand Blockchain Community Initiative ผลักดันธุรกิจในประเทศ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

รายงานจากสำนักข่าวท้องถิ่นเผยให้เห็นถึงการจัดตั้งกลุ่มนามว่า Thailand Blockchain Community Initiative ในงาน Bangkok Fintech Fair 2018 ในวันนี้ที่ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยถือเป็นครั้งแรกของประเทศ การแถลงข่าวของผู้ว่าฯ แบงค์ชาติ วิรไท สันติประภพเผยให้เห็นถึงดการรวมเอาธนาคารทั้งหมด 14 ธนาคารมาเข้าร่วมแผนการของกลุ่มดังกล่าวด้วย อ้างอิงจากสำนักข่าวไทย

กลุ่มดังกล่าวถูกตั้งขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อนำเทคโนโลยีที่ใช้หนุนหลังเหรียญ cryptocurrency Bitcoin อย่าง Blockchain มาใช้เพื่อพัฒนาและยกระดับภาคธุรกิจในไทย รายชื่อธนาคารทั้งหมด 14 แห่งที่จะเข้าร่วมนั้นประกอบไปด้วยนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารเกียรตินาคิน ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารทหารไทย ธนาคารทิสโก้ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารธนชาต ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารยูโอบี ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด(ไทย) และธนาคารออมสิน

นอกจากนี้ยังมีภาคธุรกิจอื่น ๆ อีก 7 แห่งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถาบันการเงินอย่าง การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล บจก. พีทีที โพลีเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง บมจ. ไออาร์พีซี และ เครือปูนซิเมนต์ไทย มาเข้าร่วมกลุ่มดังกล่าวอีกด้วย และที่สำคัญยังถูกเสริมทัพด้วยบริษัทด้านกฎหมายอีก 4 แห่งอย่าง แอคเซนเจอร์เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) และไอบีเอ็ม

นอกจากนี้การแถลงข่าวยังได้พูดถึงโครงการหนังสือค้ำประกันอิเลคทรอนิคส์ผ่านเทคโนโลยี Blockchain ผ่านระบบ cloud ซึ่งนั่นหมายความว่าหนังสือค้ำประกันในอนาคตจะไม่จำเป็นต้องถูกทำบนกระดาษอีกต่อไป แต่จะถูกเก็บแบบ decentralized ที่จะต้องมี node มา verify ข้อมูลหลาย ๆ node ส่งผลทำให้เกิดการปลอมแปลงได้ยากขึ้น, ตรวจสอบข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและอัตโนมัติทุก ๆ ครั้ง

ก่อนหน้านี้ธนาคารกสิกรไทยก็ได้ริเริ่มแนวคิดในการทำระบบหนังสือค้ำประกันผ่าน Blockchain เช่นกันเมื่อกรกฎาคมของปีที่แล้ว โดยจะใช้เทคโนโลยีของ Hyperledger นามว่า Fabric ที่หลาย ๆ ฝ่ายทราบกันดีว่าเป็นผู้บุกเบิกระบบ blockchain เพื่อองค์กรรายแรก ๆ ของโลก

ซึ่งหากการริเริ่มดังกล่าวได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากภาคธุรกิจ เราอาจจะได้เห็นโครงการด้าน blockchain จากภาคเอกชนในอนาคตเพิ่มขึ้นอีกก็เป็นได้

ภาพจากสำนักข่าวไทย

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น