ในขณะที่พอร์ทเหรียญคริปโตของคุณนั้นเต็มไปด้วยเหรียญ altcoin และคุณก็ไม่ได้ตามเช็คราคาของมันมาแล้วพักใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพราะว่าสาเหตุที่คุณกำลัง “ติดดอย” จนต้องถอดใจ หรือ ICO ตัวที่คุณลงทุนไปนั้นจู่ ๆ กลับเงียบหายเข้ากลีบเมฆไป รวมไปถึงปัจจัยอื่น ๆ อย่างผู้ออกกฎหมายและรัฐบาลที่กำลังร่างกฎหมายที่ดูเหมือนอาจไม่ได้เอื้ออำนวยให้กับนักลงทุนมากนัก เมื่อสิ่งเหล่านี้กำลังถาโถมเข้ามาหาคุณพร้อมกัน มันอาจส่งผลทำให้คุณรู้สึกท้อใจ จนลืมไปแล้วว่าเหรียญคริปโตที่คุณถืออยู่นั้นทำให้คุณรวยขึ้นมาแล้ว
หยุดคิดก่อนรู้สึกเครียด
ในวงการคริปโตในบางครั้งอาจเป็นเรื่องโหดร้าย ให้ลองนึกถึงการเทรดที่มีผู้แพ้และมีผู้ชนะ เม็ดเงินของผู้ที่ขาดทุนกลายเป็นรายได้ของผู้ที่กำไร เมื่อเหรียญตัวที่คุณถืออยู่พุ่งขึ้นทะลุจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์นั้น ความรู้สึกดังกล่าวไม่ต่างจากความรู้สึกของคนที่ได้นั่งรถไฟเหาะบินไปอวกาศในเวลาเดียวกัน ซึ่งมันเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและหอมหวาน แต่ในอีกสถานการณ์หนึ่งเมื่องานเลี้ยงนั้นเลิกรา ราคาร่วงดิ่งทะลุจุดต่ำสุดในรอบเดือน คุณกลับทิ้งความหวังนั้นไปหมดสิ้น
เมื่อถึงจุด ๆ นั้นมันเป็นเรื่องง่ายที่จะรู้สึก “นอยด์” ลองคิดดูสิ คุณกระโดดเข้าตลาดมาเพราะเห็นเพื่อน ๆ ของคุณทำเงินในขาขึ้นได้เป็นกอบเป็นกำ และคุณก็ต้องการสิ่งนั้นบ้าง คุณ HODL ตามจังหวะที่ถูกต้อง, ซื้อ dip (เมื่อราคาตกลงมาถูกลง), และหลีกเลี่ยง Bitconnect ในบางครั้งคุณถึงกับอ่าน Whitepaper ภาษาอังกฤษความยาวกว่า 51 หน้ากระดาษของ ICO ที่คุณสนใจ แต่แล้วโชคชะตากลับไม่เป็นใจให้คุณ ภายในแว่บเดียว ทุกอย่างหายวับไปกลับตาจนทำให้คุณต้องถามตัวเองว่า “นี่เราเกิดมาเพื่อจนจริง ๆ เหรอเนี่ย” หรือ “เราอาจจะไม่เหมาะกับคริปโตจริง ๆ ใช่มั้ย”
คริปโตนั้นคือครูของคุณ
แต่หากลองมองในแง่บวกนั้น ให้ลองดูตามนี้
ใครเป็นคนสอนคุณให้ใช้ 2FA บนระบบทุกอย่างที่เกี่ยวกับความปลอดภัย?
ก็คริปโตไง จะใครล่ะ
ใครเป็นคนช่วยทำให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับระบบการเงิน, เศรษฐกิจโลก, การวิเคราะห์กราฟเชิงเทคนิคและ Indicator, ระบบ demand supply พื้นฐาน ในเวอร์ชันที่คุณเข้าใจแบบแจ่มแจ้ง และไม่ได้ถูกโรงเรียนบังคับให้เรียน?
ก็คริปโตไง จะใครล่ะ
ใครเป็นคนสอนคุณให้รักษาความเป็นส่วนตัวบนอินเทอร์เนต เมื่อมีข่าวเกี่ยวกับการที่ Facebook ทำการ leak ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานนับล้าน?
ใครเป็นผู้สุมไฟแห่งการเรียนรู้ให้คุณ ทั้ง ๆ ที่คุณไม่ได้รู้สึกอยากจะเรียนรู้และศึกษาทุกอย่างด้วยตัวเองแบบนี้มาตั้งแต่สมัยอนุบาลแล้ว? ใครเป็นคนสอนคุณว่ามีเพียงคนเดียวที่คุณสามารถฝากชีวิตไว้ได้ ถ้าไม่ใช่ตัวคุณเอง โดยคุณรู้ดีว่าสิ่งที่จำเป็นในการเอาตัวรอดในยุคอินเทอร์เนตคือการจัดการข้อมูลส่วนตัวของตัวเอง, การศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเอง และการไม่รอคอยโชคชะตา
โอ้ใช่ คริปโตทำทั้งหมดนั่นแหละ
คุณลองดูกราฟด้านล่างนั่นสิ นั่นไม่ใช่กราฟ Bitcoin แต่เป็นกราฟสมองของคุณที่มีต่อ Bitcoin ต่างหากล่ะ
เข้ามาเพื่อกำไร แต่ได้กลับไปมากกว่ากำไร
ลองนึกถึงตอนที่คุณรู้จักคริปโตเป็นครั้งแรก สมมติว่าเป็นปี 2013 หรือเก่าแก่กว่านั้นอีก แต่มาตอนนี้ให้ลองนึกถึงเวอร์ชันของคริปโตที่คุณรู้จักตอนแรกกับตอนนี้ เป็นที่น่าแปลกว่าช่วงเวลานั้นกับในตอนนี้มันไม่เหมือนกัน คุณในตอนนี้กับในตอนนั้นราวกับว่าเหมือนเป็นคนละคน โดยคุณในตอนนี้กลายเป็นคนที่ฉลาดขึ้น และกล้าที่จะสงสัยและตั้งคำถามถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ดูไม่ชอบมาพากล เป็นคนที่ใจเย็นต่อสถานการณ์ที่กำลังย่ำแย่ได้ดีขึ้น
มันเป็นเรื่องธรรมดาที่สิ่งที่คุณได้มาทั้งหมดนั้นอาจจะไม่ใช่ของฟรี ตลอดระยะทางนั้นจะต้องมีสิ่งที่เรียกว่า “ค่าครู” แต่บางทีมันก็อาจจะคุ้มค่ากับการที่มันจะเปลี่ยนให้คุณเป็นคนที่ “เก่งกว่าเดิม” เมื่อคุณเดินเข้าไปในงานปาร์ตี้ของกลุ่มเพื่อน ๆ ของคุณ คุณก็มักจะไม่ลังเลที่จะพูดถึงเรื่องของ Bitcoin หรือผู้หญิง (หรือผู้ชาย) ที่คุณกำลังแอบชอบว่าคุณนั้นกำลังประกอบอาชีพ “นักเทรด Cryptocurrency” ในช่วงแรก ๆ คุณอาจจะปรับตัวเข้ากับกลุ่มไม่ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนั้น ครึ่งหนึ่งของบทสนทนากับคนในกลุ่มกับคุณกลายเป็นเรื่องของการจูนเครื่องขุดให้แรงมากขึ้น, จะซื้อ ICO ตัวไหนดี หรือแม้แต่การระวังว่าสมศักดิ์จะออกมาปั่นราคาอีกเมื่อไร แม้ว่า Bitcoin จะไม่การันตีได้ว่าจะทำให้คุณเป็นคนที่ “ดีกว่าเดิม” แต่มันสามารถทำให้คุณเป็นคนที่ “เก่งกว่าเดิม” แน่นอน ดั่งคำสอนที่ว่า “ให้คริปโตกับเขาไป เขาจะอยู่ได้แค่หนึ่งวัน แต่หากสอนให้เขาหาคริปโตได้ เขาจะอยู่ได้ตัวเองไปชั่วชีวิต”
คำว่า “รวย” นั้นไม่ใช่ในแง่ของทรัพย์สินเท่านั่น
มันก็อาจเป็นเรื่องจริงที่คุณอาจจะล้มเลิกทุกอย่างที่เกี่ยวกับคริปโตในวันพรุ่งนี้ และไม่หันหลังกลับมาหามันอีกเลย แม้ว่าในแง่ของสินทรัพย์คุณอาจจะยังไม่รวยขึ้น แต่ในแง่ของความรู้นั้น แน่นอนว่าคุณรวยขึ้นกว่าครั้งไหน ๆ ที่คุณเคยมีมันมา และไม่มีอะไรจะมาเปลี่ยนแปลงหรือขโมยความรู้ที่คุณได้เรียนมาแล้วอย่างแน่นอน (ไม่แม้แต่การโจมตี 51%) แม้ว่าวันพรุ่งนี้เครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมอาจจะถือกำเนิดขึ้นมาและ แฮค private key ของผู้ใช้ Bitcoin ทุกคนบนโลกนี้ จนทำให้ blockchain ต้องล่มสลาย และทำให้คริปโตในพอร์ทของคุณไร้ค่าไป แต่อย่างน้อยคุณก็ยังมีความรู้ที่ไม่มีวันไร้ค่า
ดูเหมือนว่าหัวใจหลักที่สำคัญที่สุดของ Bitocin นั้นไม่ใช่ blockchain หรือความเป็น decentralization แต่มันคือความรู้ ซึ่งก็จริงอยู่ มันสมองอย่างเดียวอาจจะไม่สามารถจ่ายค่าไฟสำหรับริกขุดของคุณได้ แต่ความสามารถของคุณตั้งแต่เริ่มกระโดดเข้าวงการนี้มาจะช่วยให้คุณต่อยอดได้ทุก ๆ วันในขณะที่กำลังมีชีวิตอยู่ และมันจะทำให้คุณได้ “กำไร” ในชีวิตของคุณมากกว่า 10x ที่คุณเคยได้มาเสียอีก
Cryptocurrency นั้นทำให้คุณรวยขึ้นแล้ว แต่คุณอาจไม่ได้สังเกตเอง
ที่มา: News Bitcoin
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น