ชุมชนและบริษัทเกี่ยวกับ Cryptocurrency จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ คาซัคสถาน และ อามาเนีย ได้เข้าร่วมการดำเนินการเพื่อที่จะฟ้องร้องบริษัทที่ให้บริการด้านแพลทฟอร์มโฆษณา ที่ระงับการโฆษณาเกี่ยวกับ Cryptocurrency โดยจะมีการดำเนินการที่นิวยอร์ก และค่าใช้จ่ายทางด้านกฎหมายต่าง ๆ จะถูกครอบคลุมด้วยเงินที่ระดมทุนมาได้
คดีความจะดำเนินการในเดือนพฤษภาคม
อ้างอิงจากรายงานนั้น การรวมตัวกันของนักลงทุนและบริษัทเกี่ยวกับ Blockchain เพื่อการฟ้องร้องการแบนโฆษณาเกี่ยวกับ Cryptocurrency ได้ถูกเริ่มโดยกลุ่มคนจากประเทศ รัสเซีย จีน และเกาหลีใต้ และในการประชุมกันที่ Moscow ครั้งล่าสุด พวกเขาได้จัดตั้ง กลุ่ม Eurasian Blockchain Association (EBA) ขึ้นมาเพื่อดูแลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในระดับประเทศ
ในปัจจุบันชุมชน Cryptocurrency จากประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ คาซัคสถาน และ อามาเนีย ได้เข้าร่วมการฟ้องร้องดังกล่าวด้วยแล้ว เพื่อปกป้องสิทธิของพวกเขา
EBA มีตั้งใจที่จะฟ้องร้องบริษัท Facebook, LinkedIn, Google, Yandex และ Twitter เกี่ยวกับการแบนโฆษณา Cryptocurrency รวมถึง ICO
ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทางด้านกฎหมายจะถูกครอบคลุมด้วยการระดมทุนตามความสมัครใจ โดยเงินดังกล่าวจะถูกเก็บไว้ในกระเป๋าคริปโต
กลุ่มดังกล่าวมีความเชื่อว่าอินเตอร์เน็ตควรเป็นพื้นที่ที่ทุกคนมีอิสรภาพ และการแบนนั้นเปรียบเสมือนการริดรอนสิทธิของพวกเขาไป
โดยประธาน RACIB ได้เตือนว่า:
“บริษัทเหล่านี้ตัดสินใจที่จะออกกฎหมายโดยไม่สนใจถึงความอิสระของข้อมูล พวกเขาใช้ความผูกขาดทางด้านทรัพยากรเพื่อความได้เปรียบของพวกเขาเอง ในอนาคตข้างหน้าพวกเราจะเจอกับ การเหยียดเชื่อชาติ ศาสนา และ การเลือกปฎิบัติ”
ทุกการกระทำมีผลลัพธ์
โดยการตกลงดังกล่าวได้ถูกดำเนินไปถึง ชุมชน Cryptocurrency และ Blockchain ของชาวรัสเซีย (RACIB), กลุ่มบริษัทระดมทุนประเทศเกาหลี (KOVA), กลุ่มผู้ลงทุนเกียวกับ Cryptocurrency และ Blockain สำหรับชาวจีน (LBTC) พวกเขาเหล่านี้เชื่อมั่นอย่างมากว่าการแบนดังกล่าวเป็นการตกลงกันโดยอาศัยการผูกขาดของอำนาจ
ก่อนหน้านี้ Facebook ได้ทำการแบนโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency ในช่วงต้นเดือนมกราคม โดยให้เหตุผลว่ามีเสียงเรียกร้องจากผู้ใช้งานถึงการ spam โฆษณาชวนเชื่อแบบผิด ๆ
Google และ แพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้มีการบังคับใช้นโยบายการแบนต่าง ๆ ตามมาเช่นกัน ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น