บางคนเคยกล่าวไว้ว่าระบบ “เว็บเทรดแบบ decentralized” จะมาเป็นอนาคตของโลกใบนี้ ในขณะที่บางคนไม่เชื่อ และมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ
บางทีมันก็อาจจะไม่ใช่เรื่องผิดที่จะมีความฝันที่สูง เมื่อช่วงปีที่แล้ว มีเว็บผู้ให้บริการซื้อขาย cryptocurrency หลายเจ้าที่ได้ทำการตลาด ตั้งตัวเองว่าเป็น dencentralized exchange ซึ่งแม้ว่าระบบของแต่ละคนจะแตกต่างกัน แต่คำจำกัดความของมันก็ไม่ได้หลุดออกไปจากความหมายที่ว่า “การให้ผู้คนเข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนแบบ P2P” มากเท่าใดนัก แต่ความแตกต่างคือ “การมีแพลทฟอร์มแลกเปลี่ยนที่ไม่ขึ้นกับใคร และไม่มีใครเป็นเจ้าของ”
ในปัจจุบัน เว็บผู้ให้บริการเทรดเหรียญคริปโตที่เราคุ้นเคยกันอยู่ดีนั้นไม่ได้เป็นแบบ decentralzied กล่าวคือมีบริษัทหรือบุคคลมาเป็นผู้ถือครองเป็นเจ้าของและให้บริการ (อาทิเช่น Bx, Bitkub, Coinbase) ซึ่งความแตกต่างก็คือเว็บเทรดแบบ decentralized นั้นจะไม่บังคับให้ลูกค้านักลงทุนทำการโอนเหรียญของตัวเองขึ้นมาเก็บไว้บนแพลทฟอร์ม แม้ว่าในปัจจุบันนั้นเราจะยังไม่ได้เห็นเว็บเทรดแบบ decentralized ขึ้นมาแบบเป็นรูปเป็นร่าง แต่คำว่า “DEX” (decentralzied EXchange) นั้นก็ยังคงเป็นคำยอดนิยมในกลุ่มนักเทรดคริปโตในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีข้อมูลมาบ่งชี้ให้เห็นถึงสาเหตุที่เว็บเทรดในรูปแบบดังกล่าวนั้นอาจไม่ “เจ๋ง” เหมือนที่หลาย ๆ คนวาดฝันไว้
อ้างอิงจากข้อมูลผลสำรวจที่ทางบริษัทนักวิเคราะห์ Ethereum นาม Alethio ได้เก็บไว้ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคมจนถึง 12 กรกฎาคมที่ผ่านมาเผยว่าโมเดลหลัก ๆ ของ decentralized exchange นั้นคือการหยิบยื้นเอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาปรับใช้ แต่ทว่ามันยังคงมีความเป็น centralization (จุดศูนย์รวม) อยู่ในระดับหนึ่ง
บางคนพยายามที่จะ dencentralize บริษัทผู้ให้บริการเว็บเทรดแบบเก่า ยกตัวอย่างเช่น Huobi Chain Project ที่เคยประกาศตัวไปแล้วเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในขณะที่บางคนพยายามที่จะสร้างกลุ่ม community สำหรับผู้ถือหุ้นบนโมเดลแบบ P2P อย่างเช่น 0x เป็นต้น
“เว็บเทรดแบบ decentralised กำลังจะมากำจัดระบบตัวกลางในวงการเว็บเทรด crypto” กล่าวโดยนักลงทุน Wall Street นาง Jill Carlson
ทว่าเส้นทางนั้นดูเหมือนว่าจะยังต้องใช้เวลาอีกยาวไกล
ยกตัวอย่างเช่นเว็บ Bancor ยกตัวเองขึ้นมาเป็น market maker บนแพลทฟอร์ม decentralized เสียเอง ซึ่งข้อมูลจาก Alethio เผยให้เห็นว่าพวกเขาได้ช่วย swap เหรียญ token ไปแล้วทั้งหมด 9,691 ครั้งให้กับนักเทรด 1,147 รายในช่วงเวลาสองสัปดาห์
การขาดมาซึ่งความหลากหลายที่ว่านี้ชี่ให้เห็นถึงปัญหาของ “สภาพคล่องของเครือข่าย decentralized” โดยเฉพาะ Bancor ที่ถูกแฮคไปเป็นมูลค่ากว่า 13.5 ล้านดอลลาร์ จนส่งผลทำให้ต้อง freeze เงินของผู้ใช้งานด้วยระบบโค้ดภายใน จนภายหลังทำให้มีผู้ใช้งานจำนวนมากออกมาแสดงความไม่พอใจว่าถ้าหากเว็บสามารถ freeze เงินของผู้ใช้งานได้ แปลว่านั่นไม่ใช่เว็บเทรดแบบ decentralized อยู่แล้วตั้งแต่ถูกออกมาแบบมาตอนแรก
“คุณไม่ใช่เว็บเทรดแบบ decentralized ถ้าคุณสามารถเอาเหรียญของลูกค้าของคุณไปไหนมาไหนก็ได้ตามใจชอบ” กล่าวโดยนักพัฒนาซอฟต์แวร์ Udi Wertheimer
แล้วจะ Decentralized ได้อย่างไรล่ะ
อีกหนึ่งปัญหาเมื่อพูดคุยเกี่ยวกับความเป็น decentralization นั้นก็คือ มันมีคำจำกัดความที่ไม่ตายตัวค่อนข้างเยอะ เว็บเทรดหนึ่งเว็บอาจจะมีความเป็น centralization ที่สูงมากในมุมหนึ่ง แต่อาจจะมีความเป็น decentralization ที่ไม่สูงมากอีกมุมหนึ่ง
ยกตัวอย่างเช่น 0x ในช่วงที่ Alethio ทำแบบสำรวจนั้น ตัวโพรโตคอลดังกล่าวนั้นต้องขึ้นอยู่กับ relayer (ตัวช่วยในการส่งผ่านคำสั่ง) ในการซื้อขาย token, มี market maker จำนวน 914 เจ้าในการช่วยประมวลผลการซื้อขายเป็นจำนวน 9,017 ธุรกรรมโดยนักเทรดจำนวน 243 ราย ซึ่งบ่งบอกถึงจำนวนตัวเลขที่ไม่สัมพันธ์กันอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนักเทรดเหล่านั้นมักจะหลั่งไหลมาจากช่องทางที่เล็กมาก ๆ อย่าง “บริษัทสตาร์ทอัพด้าน relayer” (17 แห่ง) ซึ่งแต่ละบริษัทก็มีโมเดลในการทำธุรกิจที่แตกต่างกันไป, และส่วนใหญ่พวกเขามักจะใช้ซอฟต์แวร์ในการจัดการของตัวเอง ที่นำมาพัฒนาอยู่บน 0x แทนที่จะใช้ open-source code แบบที่มีความโปร่งใส และใคร ๆ ก็สามารถเข้ามาตรวจสอบได้ และแม้้ว่า 0x จะไม่ต้องมีส่วนรับผิดชอบในด้านกฎหมาย แต่ relayer เหล่านั้นจะต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบเต็ม ๆ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะเรียก DEX ประเภทนี้ว่าไร้เจ้าของและผู้ดูแลแบบ 100%
หนึ่งใน relayer เหล่านั้นคือ Padadex ที่ก่อนหน้านี้ถูกซื้อไปโดย Coinbase หรือบริษัทที่หลาย ๆ คนต่างก็เรียกกันว่าเป็นเว็บเทรดที่มีความเป็น centralized มากที่สุดแห่งหนึ่ง
หากจะกล่าวแล้ว ecosystem ของ 0x นั้นอาจจะมีความเป็น decentralized มากกว่าเว็บเทรดอื่น ๆ เสียอีก
[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]
“มันแตกต่างจากเว็บเทรดแบบ centralize เนื่องจากว่า relayer เหล่านี้ไม่ได้ถือเงินของลูกค้าไว้เลย พวกเขา คือพวกเขาไม่ได้เข้าไปแตะมันเลย” กล่าวโดยนาย Amir Bandeali หรือ CTO ของ 0x “เราได้เห็น relayer เป็นจำนวนมากเริ่มที่จะสร้างเครื่องมือสำหรับ market maker แบบ open-source แล้ว”
สำหรับนาง Carlson ผู้ที่เคยทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับ 0x นั้น คำว่า “decentralized” ควรที่จะหมายถึงเว็บเทรดที่ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบอะไรเลย โดยเธอเชื่อว่าการแฮคเว็บ Bancor นั้น ความรับผิดชอบทั้งหมดต้องไปตกอยู่ที่ผู้รับผิดชอบเก็บเงินของลูกค้าอย่างเช่นเว็บเทรดประเภท centralized
“เมื่อเรากล่าวถึงเว็บเทรดประเภท decentralized ภัยคุกคามที่น่าเป็นห่วงสำหรับผู้คนในวันนี้ก็คือพวกผู้ที่รับผิดชอบเงินของลูกค้า”
เมื่อนานมาแล้ว
หากลองหันมามองดูอีกทีจะเห็นว่าเราไม่ควรลืมว่าตลาด DEX นั้นยังคงใหม่อยู่ ดังนั้นโวลลุ่มการซื้อขายในตลาดดังกล่าวยังคงต่ำนั่นเอง
อันที่จริงแล้ว แพลทฟอร์มตลาด DEX ที่ถูกวิเคราะห์โดย Alethio นั้น ผลวิเคราะห์เผยว่าเว็บ IDEX ได้รับความนิยมสูงสุด โดยเป็นเว็บที่ถูกพัฒนาโดยบริษัทฟินเทคนามว่า Aurora ที่ช่วย swap เหรียญไปแล้วกว่า 69,339 ธุรกรรมภายใน 12,400 นักเทรดในช่วงภายใน 2 สัปดาห์
หากนำมาเทียบกับเว็บเทรดประเภท centralized อย่าง Bitfinex ที่ช่วยประมวลผลไปแล้วกว่า 92,024 ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 2 วันจากวันที่ 9-10 เดือนกรกฎาคมนั้น โวลลุ่มของ IDEX นั้นยังถือว่าเป็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
นาย Marshall Swatt ผู้ก่อตั้งเว็บเทรดนาม Swatt Exchange ได้เถียงว่าเว็บเทรดแบบ decentralised นั้นเป็นเพียงแค่ “เว็บเทรดแบบ OTC แบบมีกิมมิคก็แค่นั้น” และการซื้อขายจะไม่สามารถถูก scale ให้ใหญ่ขึ้นได้ โดยเข้ากล่าวว่า
“ผมคิดว่าการที่มันไม่สามารถแลกเลี่ยนกับเงิน fiat ได้, ไม่สามารถถูกควบคุมดูแลได้ และไม่มีกฎหมายมารองรับ จะทำให้ลดอัตราการแลกเปลี่ยนอำนาจของเว็บเทรดแบบ decentralized ลง”
นาย Swatt ผู้ที่เคยร่วมก่อตั้งเว็บเทรด Bitcoin นาม Coinsetter ได้ขายกิจการของเขาให้กับ Kraken เมื่อปี 2016 และได้ออกมาเปิดใจในภายหลังว่าการเปิดเว็บเทรดคริปโตนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจะต้องมาปวดหัวเรื่องการจัดการด้านกฎหมาย, ความปลอดภัย และการดูแลลูกค้า, ทีมธุรกิจที่ต้องจ้างมาทำงานแม้ว่าจะไม่มีความรู้ด้าน Bitcoin เลยก็ตาม
“คุณจะไม่มีวันได้สภาพคล่องในระดับนั้น เนื่องจากว่ามันจะไม่มีวันดึงดูดนักเทรดสายบอทมาแน่” เขากล่าว
ก็จริงอยู่ที่เว็บเทรดแบบ DEX นั้นอนุญาตให้ผู้ใช้งานเพียงแค่ swap เหรียญ cryptocurrency ระหว่างกันเท่านั้น ซึ่งจะไม่สามารถดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่อย่างนักลงทุนสถาบัน หรือบุคคลธรรมดาทั่วไปมาได้แน่
นาง Carlson เชื่อว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการถึง order book ของเว็บเทรดเหรียญแบบ decentralized, market maker, หรือแม้แต่รูปแบบการทำ KYC ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเว็บเทรดคริปโตส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตาม ในการให้สัมภาษณ์ของเธอนั้น เธอไม่เห็นด้วยกับการที่จะบอกว่าเว็บเทรดแบบ DEX เป็นเพียงแค่อีกเวอร์ชันที่ดีกว่าของเว็บเทรดแบบ OTC เท่านั้น
“ความแตกต่างของมันอยู่ตรงนี้ อย่างน้อยวันนี้ มันอยู่ที่ระดับรากฐาน, ไม่ใช่ระดับการจัดทำ” กล่าวโดยนาง Carlson ในการอธิบายว่าเว็บเทรดแบบ DEX สามารถทำให้การแลกเปลี่ยนแบบ P2P โดยไร้การตรวจสอบหรือควบคุม “สิ่งที่คุณจะได้ก็คือการจัดการเอาตัวกลางออกไป”
กระแส DEX
แน่นอนว่าหนึ่งในข้อเสียของเว็บเทรดประเภท decentralzied ในปัจจุบันทำให้ทั้งวงการนั้นต้องสั่นสะเทือน
นาง Linda Xie ผู้ร่วมก่อตั้ง Scalar Capital ได้กล่าวในงานประกาศการซื้อกิจการของ Paradex ว่าความต้องการของเว็บแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโตแบบ P2P ที่ไม่ต้องมีตัวกลางนั้นกำลังเริ่มเป็นที่ต้องการสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งกระแสดังกล่าวนั้นอาจส่งผลทำให้ผู้ครองตลาดเว็บเทรดแบบ centralized ทั้งหลายต้องออกมาเปิดให้บริการเว็บเทรดแบบ DEX ด้วยเช่นกัน
จริงอยู่ที่ทาง Bloomberg รายงานว่าเว็บเทรดที่เปิดตัวมาได้ไม่นานอย่าง Binance ต้องการที่จะ “decentralize” ตัวพวกเขาเอง และรวมถึงเว็บเทรดที่เปิดให้บริการมานานแล้วอย่าง Huobi ที่เคยได้ออกมาประกาศเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่าพวกเขาได้เสนอเงินทุนกว่า 166 ล้านดอลลาร์ให้กับผู้ที่เข้าร่วมในโครงการ Huobi Chain Project ที่จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างระบบองค์กรกระจายศูนย์แบบอัตโนมัติ หรือ decentralized autonomous organization (DAO)
[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]
“เราไม่สามารถแน่ใจได้ 100% ว่าบริษัททั้งบริษัทจะสามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติโดยไม่มีคนขับเคลื่อนแบบ 100%” กล่าวโดยนาย Gordon Chen ผู้บริหารของโปรเจค Huobi Chain Project “เราไม่แน่ใจว่ามันจะเป็น dencentralized แบบ 100% ด้วยอีกเช่นกัน แต่เราเชื่อว่ามันจะสมส่วนกันแน่”
แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีปัญหาเกี่ยวกับเว็บเทรด HADAX ที่จะเน้นการโหวตของผู้ใช้งานเป็นหลักนั้น แต่ก็ยังมีผู้คนนับร้อยที่เข้ามาร่วมโครงการดังกล่าวอยู่ดี
นอกจากนั้น ผู้ร่วมก่อตั้ง Bancor นาม Eyal Hertzog ได้ออกมาทวีตว่าโปรเจ็คของเขาก็กำลัง “เดินทางสู่ความเป็น decentralization” อยู่
ข้อมูลของ Alethio ยังเผยว่าในขณะนี้ แพลทฟอร์มที่มีโมเดลความเป็น P2P แบบทั่วไปเริ่มที่จะได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่หลายหลายมากขึ้นแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้มีกระแสที่หวือหวาอะไรมากขนาดนั้น ยกตัวอย่างเช่นในช่วงสองสัปดาห์ทของเดือนกรกฎาคมนั้น บริษัทสตาร์ทอัพ AirSwap ที่ให้บริการค้นหา token ของ Ethereum นั้นได้ช่วยประมวลผลธุรกรรมไปแล้วกว่า 695 ธุรกรรม ท่ามกลางนักลงทุน 216 ราย ภายใต้ความช่วยเหลือของ market maker นับ 60 ราย
ตัวเลขดังกล่าวแสดงถึงศักยภาพที่ทำให้นาง Xie ยังคงมองโลกในแง่บวกเกี่ยวตลาดเกิดใหม่อย่าง DEX นี้ โดยเธอกล่าวว่า “นี่ยังเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น”
นาง Carlson ยังเห็นด้วยกับนาง Xie ว่าการมีโมเดลที่หลากหลายนั้นจะช่วยหยิบยื่นจุดเริ่มต้นดีสำหรับเว็บเทรดแบบ decentralization พร้อมสรุปเชิงอุปมาว่า
“ทุก ๆ ด้านของสเปกตรัมนั้นมีบทบาทที่สำคัญด้วยกันหมดทั้งสิ้น”
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น