<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ในหนึ่งปีที่ผ่านมา กำลังขุด Algorithm SHA-256 เพิ่มขึ้นอย่างมาก แม้ตลาดคริปโตจะอยู่ขาลง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อปีที่ผ่านมา กำลังขุดสำหรับ Algorithm SHA-256 ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ถึงแม้ตลาดคริปโตจะเข้าสู่ตลาดหมีในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนกำลังขุดเหล่านั้นไม่มีทีท่าที่จะลดลงเลย  แต่มันกลับเพิ่มขึ้นอย่างมากด้วยซ้ำ

Bitcoin Cash

ในขณะที่รายงานอยู่นี้ เครือข่าย Bitcoin Cash มีกำลังขุดเพิ่มขึ้นประมาณ 4 เท่าจากต้นปีที่ผ่านมา มี Block จำนวนกว่า 65,000 BCH Blockcs ที่ถูกขุดตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2017 ซึ่งนำหน้า Chain ของ Bitcoin กว่า 6,600 Blocks ตั้งแต่สัปดาห์แรกของสิงหาคมปี 2017 มีเพียงไม่กี่ Pool เท่านั้นที่เปิดให้ ขุด BCH ได้ เช่น Bitcoin.com, Viabtc และ Pool ไม่ประสงค์จะออกนามอื่น ๆ และในหลายสัปดาห์ต่อมาหลังจากนั้นได้มี Bitclub, Antpool, Batpool และ BTC.com เข้ามาร่วมด้วยซึ่งทำให้กำลังขุดในระบบเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า และเติบโตเรื่อย ๆ จนเพิ่มมาเป็น 4 เท่าในที่สุด

Bitcoin

สำหรับกำลังขุดในเครือข่าย Bitcoin มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างมากมาย โดยกำลังขุดเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันนี้ เมื่อปีที่แล้วถึง 7 เท่า

การกระจายตัวของกำลังขุดมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดย Pool ที่มีกำลังขุดมากที่สุดคือ BTC.com ซึ่งคิดเป็น 16.6 เปอร์เซ็นต์ และอันดับรองลงมาคือ Antpool เป็น 14.6 เปอร์เซ็นต์

ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของ Asic

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เครื่อง Asic บางเครื่องสำหรับขุด SHA-256 ได้เริ่มใช้ฟังก์ชัน Asic Boost อ้างอิงจากสถิติ การใช้ Asic Boost นั้นจะทำให้ประสิทธิภาพในการขุดเพิ่มขึ้น 20 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีเครื่องขุดในเครือข่ายใช้ Asic Boost ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ในวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา

ล่าสุด บริษัท GMO ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอินเทอร์เน็ตได้เปิดจำหน่ายเครื่องขุดคริปโต Algorithm SHA-256 ที่ใช้ชิปประมวลผล 7nm ทำให้เครื่องขุดมีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นไปอีก โดยเครื่องขุดดังกล่าวมีกำลังขุดถึง 33 TH/s พร้อมทั้งเครื่องขุดของบริษัทอื่น ๆ ก็ทยอยออกมาตาม ๆ กัน เช่น T2-Turbo จาก Innosilicon มีกำลังขุด 24 TH/s และ Avalonminer A9 จาก Canaan มีกำลังขุด 26.5 ถึง 30 TH/s

และแน่นอนว่า การที่มีกำลังขุดในเครือข่ายเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลนั้น ย่อมผลักดันให้ค่า Difficulty ปรับตัวตามไปด้วย โดยค่าดังกล่าวเพิ่มขึ้นประมาณ 6 เท่าจากเวลานี้เมื่อปีที่ผ่านมา

ที่มา News.bitcoin

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น