นักพัฒนา protocol ของ Bitcoin นาม Mark Friedenbach ได้ออกมากล่าวถึงวิธีการในการ scaling หรือเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลธุรกรรมของ Bitcoin โดยเขาเคลมว่าไม่จำเป็นต้องมีการ hard fork เกิดขึ้น อ้างอิงจาก workshop ของเขาที่กรุงโตเกียวเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา
โดยแนวคิดใหม่ที่ว่านี้ได้ถูกจัดสอนขึ้นในงานที่เรียกว่า Scaling Bitcoin workshop และถูกตั้งชื่อว่า “Forward Blocks” โดยจะเป็นการ boost การทำงานของ Proof-of-work (PoW) บน soft fork แทนที่จะเป็น hard fork อีกทั้งยังมีการนำเอา private ledger มาทำผสมอีกด้วย
ข้อเสนอแนะในการ scaling ดังกล่าวอ้างว่าจะสามารถเพิ่ม “ความสามารถในการประมวลผลธุรกรรมได้ถึง 3584x ระดับปัจจุบัน” และยังช่วยเพิ่มการต่อต้านการ censor ด้วยระบบ sharding ได้อีกด้วย
นาย Friedenbach ได้แนะนำการพัฒนาการทำธุรกรรมของ Bitcoin ครั้งใหญ่แบบ on-chain (ธุรกรรมแบบที่จะถูกเก็บไว้บน blockchain) โดยวิธีการทางเลือกที่เรียกว่า ‘soft fork’ ซึ่งหลักการทำงานคร่าว ๆ ของมันคือการทำให้กฎในระบบ consensus ที่ node เก่า ๆ “จะยังสามารถเห็น chain ทำงานล่วงหน้าต่อไปได้” นอกจากนี้งานวิจัยของพวกเขายังได้กล่าวถึงคำจำกัดความของคำว่า “forwards compatible soft-fork” ที่จะทำให้ผู้ที่ถือ node เวอร์ชันเก่าที่ยังไม่ได้อัพเกรด สามารถรับและประมวลผลธุรกรรมได้อีกด้วย
ในพรีเซ้นท์ของเขานั้น นาย Friedenbach ได้เน้นย้ำถึงการทำ sharding ที่สามารถช่วยเพิ่มการต่อต้านการ censorship ได้ โดยกล่าวเสริมว่าเขาได้ยืมเอาเทคนิคการทำ sharding มาจาก “การทำระบบฐานข้อมูลทั่วไป”
ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใช่รายแรกที่กล่าวถึงเทคนิคในการทำ sharding ก่อนหน้านี้นักพัฒนาเหรียญชื่อดัง Ethereum ก็ได้ออกมาประกาศถึงการอัพเกรดครั้งใหญ่ โดยนาย Vitalik Buterin หรือผู้ก่อตั้งเหรียญดังกล่าวได้ออกมาคอนเฟิร์มแล้วว่าวิธีการทำ sharding นั้นจะสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมากที่สามารถช่วยแบ่ง workload การทำงานได้
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น