เทคโนโลยี Blockchain จะเข้ามาช่วยเรื่องเอกสารของประชาชนได้อย่างไร

กระดาษหรือเอกสารนั้นอยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ก็ต้องใช้แผ่นกระดาษในการทำงานแทบทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อซื้อขาย การทำสัญญาไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดิน โฉนด ใบสั่ง ค่าปรับ ล้วนใช้กระดาษแทบทั้งสิ้น

แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งกระดาษเหล่านั้นสูญหาย หรือมีคนมาเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่อยู่บนเอกสารเหล่านั้น และทำให้เกิดความเสียหายของเจ้าของกระดาษแผ่นนั้น จะเกิดอะไรขึ้น แน่นอนว่าเจ้าของกระดาษนั้นต้องหัวเสีย หรือแม้แต่อาจจะทำการแก้ไขไม่ได้ด้วยซ้ำไป

เมื่อเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้เข้ามาในชีวิตประจำวันมากขึ้น เทคโนโลยีเหล่านั้นก็ถูกออกแบบมาให้ช่วยปัญหาหลาย ๆ อย่างหมดไป หรืออาจจะไม่ได้หมดไปแต่ทำให้มันดีขึน อย่างเช่นเทคโนโลยี Blockchain ที่เข้ามาช่วยในเรื่องของการเก็บข้อมูล หรือการทำธุรกรรมทางการเงินให้ดีและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

และถ้าวันหนึ่งนั้น ทุก ๆ หน่วยงานในประเทศหรืออุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้มาเริ่มใช้เทคโนโลยี Blockchain กันมากขึ้น มันจะช่วยลดปัญหาในสังคมได้อย่างมากมาย

ราชการ

เรื่องเอกสารในประเทศไทยถือว่าเป็นเรื่องที่คนไทยต้องประสบปัญหา เพราะเมื่อเวลาไปทำเรื่องติดต่อกับหน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งเอกชนหรือราชการ ก็จำเป็นที่จะต้องมีเอกสารเข้ามาเกี่ยวข้อง และบางอย่างก็ต้องใช้เอกสารที่มีจำนวนมากเช่นกัน

และถ้าเกิดเอกสารที่อยู่กับทางหน่วยงานหรือราชการเกิดการเสียหายหรือสูญหาย เราก็ไม่สามารถติดตามหรือหาเอกสารชิ้นนั้นมาทดแทนได้เช่นกัน หรือแม้แต่การโกงเรื่องเอกสารนั้น ก็สามารถเกิดขึ้นได้เพราะว่า ทุกอย่างล้วนเป็นกระดาษแทบทั้งสิ้น ใคร ๆ ก็สามารถนำไปดัดแปลงแก้ไขได้หมดเช่นกัน

ล่าสุดก็มีคนไทยได้คิดค้นโปรเจกต์ด้าน Blockchain ขึ้นมา ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่เข้ามาช่วยเหลือด้านการปลอมแปลงเอกสาร โดยพวกเขาเน้นไปที่เรื่องของพาสปอร์ตและบัตรประชาชนของคนไทยนั่นเอง

เลือกตั้ง

นอกจากเรื่องเอกสารแล้วนั้น Blockchain ก็สามารถมาช่วยเรื่องของการเลือกตั้งได้ โดยในหลายหลาย ๆ ประเทศก็เริ่มใช้ Blockchain เข้ามาดูแลเรื่องการเลือกตั้งกันแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นยูเครน หรือรัฐเวสต์เวอร์จิเนียก็เริ่มนำแอปฯ มือถือสำหรับใช้ลงคะแนนเลือกตั้งผ่าน Blockchain มาใช้แล้วเช่นกัน แม้แต่รัฐบาลเกาหลีใต้ก็ได้ให้คำมั่นสัญญากับประชาชนว่าจะเริ่มใช้ Blockchain เข้ามาลงเสียงในการเลือกตั้งเช่นกัน

ใบขับขี่

ใบขับขี่ที่เห็นกันทั่วไปก็คือบัตรธรรมดา 1 ใบ บางครั้งเราก็อาจจะได้เห็นข่าวที่มิจฉาชีพ ได้ทำการปลอมใบขับขี่กันขึ้นมา เพื่อนำไปใช้ในวัตถุประสงค์ต่าง ๆ โดยที่ทางหน่วยงานอาจไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างทันที

รัฐบาลในประเทศออสเตรเลียก็ได้นำร่องทดลองนำระบบ Blockchain มาใช้ในการเก็บข้อมูลใบขับขี่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ โดยจุดประสงค์ของพวกเขาก็คือให้ประชาชนไม่ต้องพกใบขับขี่ให้ยุ่งยาก และเมื่อเวลาที่ทางการต้องการใบขับขี่นั้น ประชาชนในออสเตรเลียก็เพียงแค่เปิดแอปฯ ขึ้นมาและค้นหาชื่อตัวเองในฐานข้อมูลแค่นั้นเอง

สรุป

ด้วยเทคโนโลยี Blockchain สามารถทำให้การไปติดต่อกับหน่วยงานราชการหรือองค์กรต่าง ๆ นั้นสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะมันจะช่วยในเรื่องของข้อมูลที่ไม่มีวันสูญหายและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ ประชาชนก็จะไว้ใจใน Blockchain และยังมีความคิดที่ดีต่อหน่วยงานราชการอีกด้วย