นาย Benedict Evans หุ้นส่วนของบริษัท Andreessen Horowitz หรือหนึ่งในบริษัทร่วมทุน (VC) ที่ประสบความสำเร็จมากสุดในโลกกล่าวว่าคริปโตค่อนข้างคล้ายกับอินเทอร์เน็ตในปี 1993
เราได้เห็นตลาดคริปโตนั้นล้มเหลวอยู่บ่อยครั้งไม่ว่าจะเป็นเรื่องต้มตุ๋นหลอกลวงเป็นจำนวนมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามอ้างอิงจากนาย Evans ถ้านักลงทุนให้ความสำคัญกับโปรเจกต์ที่ล้มเหลวและการดำเนินงานที่ฉ้อฉลในขณะที่คริปโตนั้นก็เติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ มันก็เหมือนกับยุคอินเทอร์เน็ตในช่วงปี 1999 หรือช่วงฟองสบู่ Boo.com
“สถานการณ์คริปโตในปัจจุบันมันคล้ายคลึงมากกับอินเทอร์เน็ตในปี 1993 และในปี 1999 มันมีศักยภาพแต่กรณีที่นำมาใช้จริงนั้นยังคงมีน้อยแถมยังมีเรื่องของการต้มตุ๋นเข้ามาอีก แต่การที่เรามองมันว่าเป็น Scam มันก็เหมือนกับกรณีของ Boo.com ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้”
การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ ๆ อาจเป็นเทคโนโลยีที่ด้อยกว่า
ก่อนหน้านี้นาย Ben Horowitz นักลงทุนร่วมทุนและผู้ร่วมก่อตั้ง A16Z เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเช่น Crypto หรือโทรศัพท์มือถือก็จะทำให้เกิดการหลอกลวงได้ง่ายเพราะมันเป็นช่วงเริ่มต้น และเหมือนว่ามันจะมีความสำคัญกับเทคโนโลยีที่มีอยู่
เมื่อมีตลาดใหม่ ๆ เข้ามานักลงทุนก็จะรีบคว้ามันไว้ก่อน เช่น Cryptocurrency นั้นหลาย ๆ โปรเจกต์มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในช่วงปลายปี 2017 โดยในช่วงนั้นมูลค่าทางการตลาดของคริปโตมากถึง 800 พันล้านดอลลาร์
“ถ้ามองคริปโตตอนนี้มันก็เป็นสิ่งต้มตุ๋นเหมือนยุคอินเทอร์เน็ตปี 1993 ที่เรามองเห็นมันเป็นฟองสบู่ และการใช้งานคริปโตก็เหมือนตอนอินเทอร์ยุค 1993 ที่มี Traffic การใช้งานแค่เพียง 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น”
และในเรื่องที่มีการถกเถียงมากสุดก็คือ Cryptocurrency นั้นไม่มีกรณีที่มันถูกนำไปใช้อย่างชัดเจน แต่ทางนาย Evans ก็บอกว่าในปี 1993 ก็ไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะใช้อินเทอร์เน็ตเหมือนกัน
ความแตกต่างระหว่างคริปโตในปี 2018 และอินเทอร์เน็ตในปี 1993 ก็คือคริปโตมีการนำไปใช้ในหลาย ๆ กรณีแถมยังมีประสิทธิภาพในการทำงานดีกว่าระบบที่มีอยู่เดิมอีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่นกรณีที่มีการโอนเงิมูลค่ากว่า 194 ล้านดอลลาร์แต่เสียค่าธรรมเนียมเพียง 0.1 ดอลลาร์เท่านั้น
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น