อ้างอิงจาก RTT News ระบุว่าศุลกากรของประเทศซาอุดิอาระเบียกำลังจะทดลองใช้ ระบบติดตามการส่งสินค้าด้วยระบบ Blockchain โดยโปรเจกต์นี้จะเชื่อมต่อกับระบบติดตามสินค้าที่มีอยู่แล้วที่มีชื่อว่า Fasah
เทคโนโลยี Blockchain จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของศุลกากรได้หรือไม่?
แพลตฟอร์มที่จะถูกนำมาใช้งานนี้มีชื่อว่า TradeLens คาดว่าจะประหยัดค่าใช้จ่ายโดยรวมได้หลายอย่าง Maersk และ IBM ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์รายใหญ่ของเดนมาร์กได้สร้างโซลูชันการติดตามการขนส่งด้าน Blockchain โดยแพลตฟอร์ม TradeLens ถูกประกาศเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ทางซาอุดิอาระเบียจะนำแพลตฟอร์ม Fasah มารวมกับ TradeLens โดย Fasah เป็นแพลตฟอร์มที่มีมาก่อนและได้เชื่อมโยงการทำงานที่เกี่ยวข้องด้านการขนส่งข้ามพรมแดน รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
พวกเขาหวังว่าการใช้เทคโนโลยี Blockchain จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในด้านต่าง ๆ ของกระบวนการติดตามการจัดส่ง และการรวมกันของ TradeLens และ Fasah จะทำให้มีการตรวจสอบที่มากขึ้นและลดเวลาการจัดส่งได้มากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์
มีความกระตือรือล้นอย่างต่อเนื่องสำหรับเทคโนโลยี Blockchain กับ Logistic
แพลตฟอร์ม TradeLens เปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดยสามารถประหยัดเงินได้เป็นจำนวนมาก และถ้ายิ่งผนวกรวมกับแพลตฟอร์มตัวใหม่ที่กำลังจะออกนั้น จะไม่ได้เป็นเพียงการเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่สำหรับอุตสาหกรรม Logistic
เมื่อต้นปี 2018 นั้นบริษัทในเครือของ Alibaba ได้รายงานความสำเร็จด้านการใช้เทคโนโลยี Blockchain สำหรับข้อมูลด้าน Logistic และต้นปี 2018 บริษัท Agility หรือผู้ให้บริการ Logistic แบบ Third-Party ระดับสากลได้เข้าร่วมกับบริษัท IBM และบริษัท Maersk โดยทางนาย Essa Al-Saleh CEO ของ Agility Global Integrated Logistics กล่าวว่า:
“เทคโนโลยี Blockchain สามารถปรับปรุงการจัดส่งโดยการแสดงสถานะของเอกสารเช่น แบบฟอร์มศุลกากรและใบตราส่งสินค้า (Bill of Lading) ซึ่งจะช่วยลดเวลาในขั้นตอนสำหรับพิธีศุลกากร โดยการโยกย้ายข้อมูลการจัดส่งไปยังระบบ Blockchain อาจช่วยให้การวิเคราะห์ความเสี่ยงมีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น”
อนาคตเราจะได้เห็นบริษัทด้านขนส่งหันมาใช้เทคโนโลยี Blockchain มากยิ่งขึ้นและแน่นอนว่าจะทำให้อุตสาหกรรมด้าน Logistic นั้นมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น