<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ครบรอบวันเกิดตลาดหมี: วันนี้เมื่อปีทีผ่านมา เป็นวันแรกที่ตลาดคริปโตร่วงหนัก

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

วันนี้เมื่อหนึ่งปีที่แล้วเป็นเหตุการณ์ฟองสบู่คริปโตได้เกิดระเบิดขึ้น ก่อนที่ราคาของ   Bitcoin และคริปโตตัวอื่น ๆ ร่วงลงมาเรื่อย ๆ ตลอดช่วงปี 2018 ที่ผ่านมาจนถึงปีใหม่ 2019

ตลาดคริปโตลดลงกว่า 84 เปอร์เซ็นต์ จากจุด All-Time-High

อ้างอิงข้อมูลจาก Coinmarketcap มูลค่าของตลาดคริปโต ซึ่งเป็นการวัดตัวเลขรวมกันของ Cryptocurrency ทั้งหมด  สูงถึง 835.7 พันล้านดอลลาร์ ในวันที่ 7 มกราคม 2018

นั่นแปลว่ามูลค่าการลงทุนในคริปโตนั้นมากกว่า Facebook และ Twitter รวมกัน

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมูลค่าตลาดของ Cryptocurrency เหลืออยู่เพียง 136.3 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น ซึ่งลดลงมาประมาณ 84 เปอร์เซ็นต์ สิ่งที่น่าสังเกตคือถึงจะเกิดการลดลง แต่จำนวนของโปรเจกต์คริปโตที่ระบุบน CoinMarketCap ได้เพิ่มขึ้นเป็น 2,086 โปรเจกต์

มูลค่าทั้งหมดของ Ripple เมื่อมกราคม 2018 มีมากกว่ามูลค่าทั้งหมดของตลาดคริปโตในตอนนี้

เป็นที่น่าสนใจว่า แม้จะเกิดการร่วงของราคาจากจุดสูงสุด และเกิดขึ้นเป็นเวลาหลายสัปดาห์ หากเรามองดูแต่เฉพาะราคาของ Bitcoin ฟองสบู่ของ Altcoins ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2017 และต่อเนื่องมาถึงสัปดาห์แรกของปี 2018

แต่มูลค่าตลาดของ Ripple ในช่วงเดือนมกราคมปี 2018 มีมูลค่าถึง 148 พันล้านดอลลาร์ ถ้าเทียบมูลค่าตลาดคริปโตปี 2019 เท่ากับ 139 พันล้านดอลลาร์

โดยฟองสบู่ Altcoin นั้นส่วนใหญ่มาจาก XRP จาก Ripple โดย XRP นั้นได้รับความสนใจเป็นพิเศษโดยในตลาดเกาหลีใต้  ซึ่งราคาเคยสูงถึง 3.84 ดอลลาร์สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก ในขณะที่เขียนบทความอยู่นี้นั้นราคาของ XRP อยู่ที่ 0.366 ดอลลาร์ซึ่งในหนึ่งปีลดลงมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์นั่นเอง

XRP ไม่ได้เป็นเหรียญเดียวที่มูลค่าลดลงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ นับจากจุดสูงสุดของปี 2018  เพราะเหรียญ Altcoins อื่น ๆ ก็ลดลงมากเช่นกันเช่น Bitcoin cash (96 เปอร์เซ็นต์) Litecoin (90 เปอร์เซ็นต์), Tron (92 เปอร์เซ็นต์), Cardano (96 เปอร์เซ็นต์), Monero (90 เปอร์เซ็นต์), Dash (95 เปอร์เซ็นต์), NEM (97 เปอร์เซ็นต์), NEO (96 เปอร์เซ็นต์) และ Zcash (94 เปอร์เซ็นต์)

บอกได้ว่าปี 2018 เป็นปีที่ยากลำบากสำหรับนักลงทุน แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายที่สุด เพราะตลาดหมีจะเป็นตัวช่วยให้นักลงทุนสามารถเรียนรู้จากลงทุนโปรเจกต์ ICO ได้ดียิ่งขึ้นและรอบคอบ และกฎหมายใหม่ในปี 2018 ที่ผ่านมา จะคอยสนับสนุนคริปโตให้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น